ทางการตุรกีและซีเรียเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ ยอดรวมของทั้งสองประเทศรวมกันอยู่ที่มากกว่า 50,000 รายแล้ว โดยผู้เสียชีวิตในตุรกีอยู่ที่ 44,218 ราย ส่วนที่ซีเรีย ตัวเลขอยู่ที่ 5,914 ราย
แม้จะผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของตุรกียังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สื่อเยอรมนี อ้าง "รัสเซีย" ซื้อโดรนพลีชีพจากบริษัทจีน
กัมพูชายืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกรายที่ 2 ในประเทศ
ไต้หวันประกาศแผนดึงดูดนักท่องเที่ยว แจกเงินให้หัวละ 5,700 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีอาคารพังเสียหายมหาศาล เฉพาะในตุรกีก็มากถึง 173,000 หลัง หลัง ทำให้เชื่อว่ายังมีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลังแผ่นดินไหว ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่สำคัญ หน่วยงานรับมือภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินของตุรกี (AFAD) รายงานว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 และ 7.6 แมกนิจูดในวันที่ 6 ก.พ. ก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมามากกว่า 9,000 ครั้ง
หน่วยงานระบุเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมถึงจิตอาสารวมมากเกือบ 240,000 คน ยังคงเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตใน 11 จังหวัดของตุรกีที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ตัวเลขผู้ที่เสียชีวิตที่ยืนยันได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ไม่มีรายงานพบผู้รอดชีวิตแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านองค์การสหประชาชาติเปิดเผยว่า ผลพวงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีผลกระทบต่อประชาชนในตุรกีมากกว่า 20 ล้านคน และประชาชนในซีเรียอีก 8.8 ล้านคน โดยผู้คนจำนวนมากต้องไปอาศัยอยู่ในสถานที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีทั้งเต็ท์สนามและในโรงแรมบางแห่ง
หลังจาดนี้ ตุรกีจะต้องดำเนินการทำลายอาคารที่ได้รับความเสียหายทิ้ง เพื่อไม่ให้มีการพังถล่มซ้ำ ซึ่งจะนำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหม่ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป เทย์ยิป แอร์โดอัน ยังให้สัญญาว่า จะเร่งสร้างอาคารบ้านเรือนใหม่ให้แล้วเร็จภายใน 1 ปี ท่ามกลางเสียงจากผู้เชี่ยวชาญว่า ตุรกีควรให้ความสำคัญกับความแข็งแรงปลอดภัยมากกว่าความเร็วในการก่อสร้าง
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP