ในเชิงการเมือง “ภาษา” ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการเผยแพร่อิทธิพลวัฒนธรรม ภาษาของแต่ละชาติถือเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของชนชาตินั้น ๆ จึงมีแนวคิดที่มองว่า การน้อมรับเอาภาษาอื่นมาใช้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้อิทธิพลวัฒนธรรมภายนอกรุกล้ำเข้ามา และอาจทำให้วัฒนธรรมเดิมถูกกลืนกิน
และดูเหมือนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน จะมีความเชื่อในลักษณะดังกล่าว เพราะล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) เขาได้ลงนามในกฎหมายฉบับใหม่ “ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้คำภาษาต่างประเทศ”
กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายแก้ไขจากกฎหมายการใช้ภาษารัสเซียอย่างเป็นทางการฉบับเดิม โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียจะถูกห้ามไม่ให้ใช้คำต่างประเทศในการปฏิบัติหน้าที่
ปูตินกล่าวว่า เขาต้องการปกป้องรัสเซียจากความเสื่อมทรามของตะวันตก ซึ่งเขามองว่ากำลังพยายามบ่อนทำลายประเทศรัสเซีย
หน้าเว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า กฎหมายการใช้ภาษารัสเซียอย่างเป็นทางการฉบับเดิมปี 2005 ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องและสนับสนุนสถานะของชาวรัสเซีย
ข้อความบนเว็บไซต์ยังบอกอีกว่า “เมื่อภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการของสหพันธรัฐรัสเซีย จึงไม่อนุญาตให้ใช้คำและสำนวนที่ไม่สอดคล้องกับบรรทัดฐานของภาษารัสเซียสมัยใหม่ ... ยกเว้นคำต่างประเทศซึ่งยังไม่มีคำภาษารัสเซียที่มีความหมายครอบคลุมเทียบเท่ากัน”
ทั้งนี้ มีรายงานว่า รายชื่อคำภาษาต่างประเทศที่ยังสามารถใช้ได้จะได้รับการเผยแพร่ในเอกสารประกาศแยกต่างหาก ซึ่งต้องมารอดูกันว่า จะมีคำใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับแก้ไขใหม่นี้ไม่ได้กล่าวถึงบทลงโทษใด ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการใช้ภาษารัสเซียฉบับปรับปรุง
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP