สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันพุธ (1 มีนาคม 2566) ที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นออกมาประท้วงบนท้องถนนในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น หลังจากเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฏรของญี่ปุ่นลงมติอนุมัติงบประมาณประจำปี 2023 กว่า 114 ล้านล้านเยน โดยในจำนวนนี้ เป็นงบประมาณด้านกลาโหมสูงถึง 6.82 ล้านล้านเยน
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศ และมีผู้คนออกมาประท้วงครั้งใหญ่เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลญี่ปุ่น
ยูเครนส่งหน่วยวินาศกรรม โจมตีหมู่บ้านชายแดนรัสเซีย
จับผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 1 เหตุฆาตกรรมนางแบบฮ่องกง
และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายที่กลับไปสู่แนวทางการพัฒนาการอย่างสันติ
หนึ่งในผู้ประท้วง ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นรีบลงมติตัดใจโดยปราศจากการทำประชาเสวนาหาทางออก และงบประมาณด้านกลาโหมที่สภาอนุมัติคือจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศด้วย และกังวลว่า สิ่งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามอีกครั้ง
รัฐบาลญี่ปุ่นรีบลงมติ โดยไม่มีการทำประชาเสวนาหาทางออก งบประมาณด้านกลาโหมที่สภาผู้แทนราษฏรญี่ปุ่นอนุมัติ คือจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนะครับ พวกเขาไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์เลย และตัวเองเกรงว่า นี่อาจหมายถึงจุดเริ่มต้นของสงครามอีกครั้ง ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเดินผิดเส้นทาง
นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้ว งยังระบุด้วยว่า การเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมจะเพิ่มภาระทางภาษีให้กับชาวญี่ปุ่น และอาจส่งผลกระทบต่อการลดงบประมาณค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในประเทศด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียงแค่ประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น แต่รวมไปถึง ส.ส. หลายคนจากสภาผู้แทนราษฏรก็ปรากฎตัวเข้าร่วมชุมนุมเพื่อคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติเอกสารนโยบายด้านความมั่นคง 3 ฉบับ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ, แนวทางโครงการป้องกันประเทศ และโครงการป้องกันประเทศในระยะกลาง โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้สำคัญของญี่ปุ่นในด้านนโยบายด้านความมั่นคง และการป้องกันประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
นักวิทยาศาสตร์พบ “ทางเดินลับ” ซ่อนอยู่ในมหาพีระมิดแห่งกิซา
ขอคุ้มครองพยาน! มูลนิธิเด็กฯหวั่นเด็ก 14 ไม่ปลอดภัย หลังถูกรุมโทรม