มาเลเซียขณะนี้กำลังเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ หลังมีฝนตกหนักทุกวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเกิดน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนใน 5 รัฐของประเทศ ได้แก่ ยะโฮร์ ปะหัง มะละกา เนกรีเซมบีลัน และสลังงอร์
ระดับน้ำของแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และทำให้หมู่บ้าน ถนน และยานพาหนะจำนวนมากจมน้ำ ทำให้ ณ วันนี้ (5 มี.ค.) มาเลเซียรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมจากอุทกภัยแล้ว 4 ราย และมีประชาชนใน 5 รัฐกว่า 48,900 คนที่ต้องอพยพจากบ้านมาอยู่ตามสถานพักพิงชั่วคราว 295 แห่ง
20 ปีที่รอคอย! 200 ชาติลงนามสนธิสัญญาคุ้มครองทะเลหลวง
ไขคำตอบ ทำไมคดีฆาตกรรมในฮ่องกง ฆาตกรมักต้องหั่นศพ?
เราจะทำร้ายธรรมชาติอีกแค่ไหน? พบโรคใหม่ในนกทะเล เกิดจาก “ขยะพลาสติก”
กรมอุตุนิยมวิทยาของมาเลเซียเตือนว่า จะมีฝนตกต่อเนื่องในรัฐยะโฮร์ ปะหัง และบางส่วนของรัฐซาราวัก ไปจนถึงวันจันทร์ (6 มี.ค.) และคาดว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงในหลายรัฐ เช่น ยะโฮร์ ปะหัง กลันตัน และตรังกานู
ยะโฮร์เป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีผู้อพยพเกือบ 45,000 คนที่ต้องหลบไปยังศูนย์พักพิง ทำให้ทางการต้องเปิดศูนย์เพิ่มขึ้น
ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ได้เดินทางไปเยือนเซกามัต หนึ่งในเขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในรัฐทางตอนใต้ของมาเลเซีย และได้พบปะกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
เขากล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศยังอยู่ภายใต้การควบคุม เนื่องจากน้ำเริ่มลดในหลายพื้นที่แล้ว และไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินด้านภัยพิบัติ
“รัฐบาลตัดสินใจไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำท่วม เนื่องจากคาดว่าปริมาณน้ำฝนจะเริ่มลดลง ... หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดแล้วในวันนี้ แต่ก็มีบางแห่งที่อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในตอนนี้” เขากล่าว
อันวาร์เสริมว่า โครงการบรรเทาอุทกภัยมูลค่า 600 ล้านริงกิต (4.6 พันล้านบาท) ขึ้นไปจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน “ปัญหาน้ำท่วมจะเกิดขึ้นซ้ำซากหากเราไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว”
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังติดตามและเฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น ไข้ฉี่หนู ไข้เลือดออก และโรคอื่น ๆ
มาเลเซียระบุว่า ปริมาณฝนที่ตกลงมานี้ ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1991 โดยปริมาณน้ำฝนที่บันทึกได้ที่สถานี Air Panas ในเมืองเซกามัตตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. จนถึงวันที่ 3 มี.ค. อยู่ที่ 731 มม. สูงกว่าปริมาณน้ำฝนรายเดือนสูงสุดเมื่อเดือนธันวาคม 1991 ซึ่งอยู่ที่ 621 มม.
ดร.มัด นาซีร์ มัด โนห์ อธิบดีกรมชลประทานและการระบายน้ำของมาเลเซีย กล่าวว่า ค่าที่อ่านได้ยังสูงกว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือนของเดือนมีนาคมในยะโฮร์ซึ่งอยู่ที่ 195 มม.
“ฝนตกหนักทำให้ทุกอำเภอในยะโฮร์ถูกน้ำท่วมรวม 105 แห่ง ณ วันศุกร์ (3 มี.ค.) ขณะที่น้ำท่วมในพื้นที่ได้รับผลกระทบมีตั้งแต่ 1-3 เมตร” เขากล่าว
โดยปกติ ฤดูมรสุมประจำปีของประเทศมาเลเซียจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และผู้คนบางส่วนจะอพยพออกจากที่อยู่อาศัยตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นอย่างน้อย
ผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุตุนิยมวิทยาของมาเลเซียเตือนว่า สภาพอากาศที่ฝนตกแบบนี้อาจต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเมษายน
เรียบเรียงจาก CNA / Straits Times
ภาพจาก AFP
