การปะทะกันปะทุขึ้นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ ( 15 เม.ย.) ระหว่างกองทัพซูดาน กับ กองกำลังกึ่งทหาร (Rapid Support Forces หรือ RSF) นำโดยพล.อ. โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล หรือ ที่รู้จักในชื่อ “เฮเมดติ” โดยเขาได้บอกกับ สำนักข่าว CNN เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า กองทัพได้ทำลายข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรมของสหประชาชาติ
ขณะที่ ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ได้ยินเสียงปืนครกและเสียงปืนใหญ่ในช่วงเช้าตรู่
โดยการต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังพิธีละหมาดในช่วงตอนเช้า ที่บริเวณสนามบินนานาชาติคาร์ทูม และที่ตั้งกองทหารรักษาการณ์กองทัพซูดาน
อีกทั้งยังมีภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นเครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพพุ่งโจมตีใส่สนามบิน ส่วนคลิปอื่นๆ เป็นภาพซากอาคารกองบัญชาการกองทัพที่อยู่ใกล้เคียงถูกไฟลุกท่วม
นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยในละแวกใกล้เคียงทางตะวันออกของสนามบิน บอกว่า พวกเขาเห็นเครื่องบินรบทิ้งระเบิดในพื้นที่ทางตะวันออกของกองบัญชาการ
“เราเห็นระเบิดและควันพวยพุ่งจากถนนโอบีด คาทิม (Obaid Khatim) หลังจากนั้นปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานก็ระดมยิงใส่เครื่องบินเป็นจำนวนมาก” ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุ
ส่วนในพื้นที่คาร์ฟูริ (Kafouri) ทางตอนเหนือของเมืองคาร์ทูม การปะทะกันและการต่อสู้บนท้องถนนเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ ทำให้ชาวบ้านเริ่มอพยพผู้หญิงและเด็กออกจากพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการสู้รบที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์ในเมืองทางตะวันออกของซูดานและภูมิภาคดาร์ฟูร์ทางตะวันตกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
มีรายงานว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 97 ราย และ องค์การอนามัยโลก (WHO)ประเมินว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,126 รายโรงพยาบาลกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทาง รวมถึง วิสัญญีแพทย์
“การตัดน้ำและไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อการทำงานของสถานบริการสุขภาพ และยังมีรายงานการขาดแคลนเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในโรงพยาบาลด้วย” WHO ระบุ
ท่ามกลางการสู้รบประชาชนได้รับคำเตือนให้อยู่ภายในเคหะสถาน โดยชาวบ้านรายหนึ่งทวีตข้อความว่า “ติดอยู่ในบ้านของตัวเองแทบไม่มีการป้องกันเลย สิ่งที่ได้ยินคือเสียงระเบิดต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า เกิดอะไรขึ้นและที่ไหนไม่รู้ แต่รู้สึกเหมือนอยู่เหนือหัวของเราโดยตรง”
สำหรับสาเหตุการปะทะกันในครั้งนี้ มาจากการแย่งชิงอำนาจของ 2 ผู้นำทางทหาร ระหว่างพล.อ. อับเดล ฟัตตาห์ อัล–บูร์ฮัน กับ พล.อ. โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล ทั้งคู่ทำงานร่วมกันเพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ของซูดานเมื่อปี 2019 และมีบทบาทสำคัญในการก่อรัฐประหารในปี 2021 ซึ่งยุติข้อตกลงแบ่งปันอำนาจระหว่างกลุ่มทหารและพลเรือนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยกองทัพได้เข้ามาดูแลซูดาน มี “บูร์ฮัน”และ “ดากาโล”เป็นผู้นำ
แต่การพูดคุยเมื่อเร็วๆนี้นำไปสู่รอยร้าวในความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะการเจรจาพยายามรวมกองกำลังRSF เข้ากับกองทัพซูดานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปกครองของพลเรือน จึงเป็นต้นเหตุความรุนแรงในครั้งนี้
ที่มา:CNN
ภาพ:AFP