ประมวลบรรยากาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก "พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ประมวลบรรยากาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก "พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3" กษัตริย์อังกฤษพระองค์ใหม่ วันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ท่ามกลางการเฝ้ารอชมพระราชพิธีจากผู้คนทั่วโลก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก "พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3" เกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2566 ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ 

โดยพิธีกรรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นไปตามขนบธรรมเนียมโบราณที่ถือปฏิบัติกันมากว่า 1,000 ปี รายละเอียดแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่มีการลดทอนบางขั้นตอน ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป 

สำหรับบรรยากาศในภาพรวมได้ประมวลข้อมูลจาก บีบีซีไทย มานำเสนอ ดังนี้

คอนเทนต์แนะนำ
ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ถึงกรุงลอนดอน เพื่อทรงร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
เครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
“เก้าอี้-พระที่นั่ง” ทุกตัวมีความหมาย ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

ภาพ : Marco BERTORELLO / AFP

เมื่อเวลา 10.20 น. ตามเวลามาตรฐานอังกฤษ (BST) หรือตรงกับประเทศไทยช่วงเวลา 16.35 น. ขบวนเสด็จของ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ซึ่งประทับในราชรถพัชราภิเษก ได้เริ่มเคลื่อนออกจากพระราชวังบักกิงแฮม

โดยขบวนจะเคลื่อนผ่านถนนเดอะมอลล์ด้านหน้าพระราชวัง ก่อนเข้าสู่ถนนไวต์ฮอลล์และถนนรัฐสภา ก่อนจะไปถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินี เสด็จไปยังพระราชอาสน์แห่งฐานันดร เพื่อประกอบพิธีรับรองความเป็นกษัตริย์โดยอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรีและองค์กษัตริย์จะหันไปยังทิศทั้ง 4 ของมหาวิหาร

พร้อมป่าวประกาศว่าสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 คือ“กษัตริย์พระองค์ใหม่ของพวกเรา อย่างไม่ต้องสงสัย” จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีนแต่ละทิศจะขานรับว่า “พระเจ้าทรงคุ้มครองพระราชา” หรือ God Save The King

อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรี ถวายคัมภีร์ไบเบิล และกราบบังคมทูลเชิญให้ทรงกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณว่า จะทรงพิทักษ์รักษากฎหมายของแผ่นดินและศาสนจักรอังกฤษด้วยความยุติธรรมและพระเมตตาโดยทรงลงพระปรมาภิไธยเป็นลายลักษณ์อักษรตามกฎหมายด้วย

ภาพ : Andrew Matthews / POOL / AFP

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และยังมีสมาชิกราชวงศ์สำคัญที่จะเข้าร่วมพระราชพิธีนี้ ประกอบด้วย เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 องค์อธิปัตย์แห่งโมนาโก และเจ้าหญิงชาร์ลีนแห่งโมนาโก , สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลตีเซียแห่งสเปน
, เจ้าชายอากิชิโนะ มกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงอากิชิโนะ พระชายา , สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน ซึ่งจะมีองค์มกุฎราชกุมารี เจ้าหญิงวิกตอเรีย เสด็จด้วย

เวลา 17.45 น. ตามเวลาประเทศไทย เข้าสู่ช่วงพิธีเจิมน้ำมันที่ผ่านการปลุกเสกจากโบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ในนครเยรูซาเลม โดยเจิมเป็นเครื่องหมายกางเขนบนพระนลาฏ (หน้าผาก) พระอุระ (หน้าอก) และที่พระหัตถ์ทั้งสองข้างขณะทรงประทับบนพระราชอาสน์เซนต์เอ็ดเวิร์ด เพื่อแสดงถึงสถานะผู้นำทางจิตวิญญาณ และความเป็นองค์ประมุขสูงสุดของศาสนาจักรอังกฤษ

พระราชพิธีในขั้นตอนนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสดให้ชม โดยจะใช้ผ้าคลุมเป็นเพดานและม่านกั้นปิดบังสายตาเอาไว้ เนื่องจากถือเป็นพิธีกรรมส่วนพระองค์ระหว่างกษัตริย์กับพระเจ้า

หลังทรงฉลองพระองค์ในชุดที่เป็นสัญลักษณ์ของนักบวชแล้ว อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรีถวายเดือยรองเท้าขี่ม้า และพระแสงดาบเป็นอันดับแรก อันเป็นสัญลักษณ์ของพระราชอำนาจและความเป็นอัศวิน

นอกจากนั้น บุคคลสำคัญซึ่งเป็นผู้แทนจากองค์กรศาสนาต่าง ๆ และผู้แทนสตรีได้ร่วมถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์อื่น ๆ เช่นกำไลและฉลองพระองค์คลุม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการปฏิบัติเช่นนี้ในประวัติศาสตร์อังกฤษ

ภาพ : Jonathan Brady / POOL / AFP 

เวลา 18.06 น. นักบวชถวายการสวมหรือวางพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ดลงบนพระเศียรของกษัตริย์ ซึ่งตลอดพระชนมชีพพระองค์จะได้ทรงพระมหามงกุฎนี้เพียงครั้งเดียว ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเท่านั้น

จากนั้นเข้าสู่ พระราชพิธีอภิเษกหรือการสถาปนาแต่งตั้งสมเด็จพระราชินี โดยจะเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์สำหรับพระอัครมเหสี และถวายการสวมพระมหามงกุฎควีนแมรี

เวลา 19.10 น. พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีพระองค์ใหม่ทรงเปลี่ยนเครื่องทรง เปลี่ยนมาทรงพระมหามงกุฎอิมพีเรียล จากนั้นประทับในราชรถทองคำ เพื่อเสด็จกลับไปยังพระราชวังบักกิงแฮม โดยมีการบรรเลงเพลงชาติของสหราชอาณาจักร God Save the King ส่งท้าย

กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรระบุว่า ได้ใช้กำลังทหารเกือบ 4,000 นายจากทุกเหล่าทัพ เพื่อเข้าร่วมในปฏิบัติการเชิงพิธีการครั้งใหญ่

ภาพ : Ben Stansall / POOL / AFP

เวลา 20:35 น. พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ร่วมในการเสด็จออกสีหบัญชร ถือเป็นธรรมเนียมที่พระราชวงศ์อังกฤษทรงยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด นับตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในปี 1902 

ขณะที่ ฝูงเฮลิคอปเตอร์จากทุกเหล่าทัพบินผ่านเหนือพระราชวังบักกิงแฮม โดยต้องลดเวลาทำการบินถวายพระเกียรติเหลือ2นาทีครึ่ง จากเดิมที่คาดว่าจะทำการบิน 6 นาที เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมา แต่ยังคงปิดท้ายด้วยการแสดงอันเลื่องชื่อของฝูงบินผาดแผลงแห่งกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับฉายาว่า “ลูกศรสีแดง” (The Red Arrows)

ภาพ : Leon Neal / POOL / AFP และ Marco BERTORELLO / AFP

ภาพปก : MARCO BERTORELLO / AFP

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ