"ปูติน" ยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศ หลังมอสโกถูกโดรนโจมตี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ติดตามสถานการณ์หลังจากที่เมื่อวานนี้ฝูงโดรนถูกส่งเข้าไปเพื่อโจมตีกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ถึงแม้จะมีความเสียหายไม่มากและไม่มีคนเสียชีวิต

แต่เหตุการณ์นี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นครั้งแรกที่ศูนย์กลางทางอำนาจของรัสเซียได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีนับตั้งแต่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนเมื่อ 15 เดือนที่แล้ว

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาประณามและกล่าวโทษยูเครนว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ ก่อนจะสั่งยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศทันที ขณะที่วันนี้มีรายงานว่า อีกหลายเมืองของรัสเซียก็ถูกโจมตีจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย รวมถึงเบลโกรอด เมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางตอนใต้ของรัสเซีย

โดรนพุ่งโจมตีอาคารหลายแห่งในกรุงมอสโก ไร้เจ็บ

รัสเซีย อ้างโดรนยูเครน 2 ลำ โจมตีเครมลินหวังสังหาร“ปูติน”

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ฝูงโดรนโจมตีใจกลางกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมาโดยระบุว่านี่เป็นความพยายามของยูเครนในการยั่วยุและข่มขวัญเพื่อให้รัสเซียต้องตอบโต้หนักขึ้น

ผู้นำรัสเซียได้พูดถึงการทำงานของระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยว่ามีประสิทธิภาพที่ดีจนสามารถสกัดและทำลายโดรนได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เขาเห็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของระบบป้องกันภัยทางอากาศให้มากขึ้นกว่าเดิม

เหตุการณ์ฝูงโดรนเข้าโจมตีเมืองหลวงของรัสเซียเกิดขึ้นในช่วงเช้าของเมื่อวานตามเวลาท้องถิ่น โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า มีโดรน 8 ลำถูกส่งมาจากสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผย มุ่งตรงเข้าใจกลางกรุงมอสโกเพื่อโจมตีพื้นที่พลเรือน แต่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดไว้ได้ ขณะที่โดรนบางลำถูกทำให้เปลี่ยนเส้นทางด้วยอุปกรณ์รบกวนสัญญานอิเลกทรอนิกส์

ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ได้โพสต์ภาพขณะที่โดรนบินเข้าโจมตี บางคนสามารถถ่ายภาพขณะที่โดรนถูกยิงตกและมีควันพวยพุ่งออกมาได้อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศหลายสำนักอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัสเซียที่ระบุว่า จำนวนโดรนที่ถูกส่งมามีประมาณ 30 ลำ ไม่ใช่ 8 ลำตามที่ทางการรัสเซียกล่าวอ้าง โดยมี 3 ลำที่หลุดรอดเข้าไปสร้างความเสียหายอาคาร 3 แห่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก

โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ยังไม่มีการระบุรายละเอียดว่าโดรนที่ใช้ก่อเหตุเป็นรุ่นไหน แต่ที่ชัดเจนคือเป็นโดรนที่ถูกออกแบบมาให้บินได้ในระยะไกลถึง 800 กิโลเมตร

หนึ่งในสมาชิกสภานิติบัญญัติรัสเซีย แม็กซิม อิวานอฟ ระบุว่า นี่เป็นเหตุการณ์การโจมตีกรุงมอสโกครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่การรุกรานของกองทัพนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และระบุด้วยว่าการถูกโจมตีลักษณะนี้เป็นความ “ผิดปกติใหม่” ของชาวรัสเซีย และดูเหมือนว่าชาวรัสเซียไม่น้อยจะคิดแบบเดียวกัน

บรรยากาศในกรุงมอสโกหลังจากทางการได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ผู้คนได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ และหลายคนให้สัมภาษณ์ว่านี่เป็นสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่อยากให้ทางการยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น

หลังจากประธานาธิบดีปูตินออกมากล่าวหาว่ายูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตี มิคาอิโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนออกมาปฏิเสธทันที โดยระบุว่า ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แต่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเชื่อว่าจะเกิดการโจมตีในลักษณะนี้มากขึ้นอีก

คำถามก็คือว่า หากไม่ใช่ยูเครน ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการส่งโดรนเข้ามาโจมตีเมืองหลวงของรัสเซีย หนึ่งในคำตอบคือ ชาวรัสเซียที่ไม่เห็นด้วยกับประธานาธิบดีปูติน โดยคนเหล่านี้ได้มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มหรือกองกำลัง ที่เปิดตัวมาแล้วมี 2 กลุ่ม นั่นก็คือ กลุ่มกองกำลังเสรีภาพรัสเซียและกลุ่มกองกำลังรัสเซียอาสา โดย 2 กลุ่มนี้มีฐานที่มั่นในยูเครนและได้รับการฝึกรบจากกองทัพยูเครน

ในช่วงการเปิดตัว เดนิส คาปุสติน ผู้ก่อตั้งกลุ่มกองกำลังรัสเซียอาสาได้ประกาศเป้าหมายของกลุ่มว่า เพื่อปลดปล่อยรัสเซียจากระบอบการปกครองของประธานาธิบดีปูติน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลัง 2 กลุ่มนี้ได้โจมตีหมู่บ้านในเมืองเบลโกรอดซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนประมาณ 40 กิโลเมตร และเกิดการปะทะกับทหารรัสเซียที่ประจำการที่นั่น และมีชาวรัสเซียบางส่วนต้องอพยพออกจากพื้นที่

เบลโกรอดเป็นเป้าหมายสำคัญของการปฏิบัติการของกองกำลัง 2 กลุ่มนี้เนื่องจากที่ตั้งของแคว้นซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนทางด้านแคว้นคาร์คีฟเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น

เบลโกรอดจึงกลายเป็นพื้นที่สำคัญยุทธศาสตร์ของรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน โดยที่นี่ถูกใช้เป็นที่ตั้งของฐานทัพเพื่อส่งทหารและกำลังบำรุงไปให้ทหารรัสเซียที่รบอยู่ในแนวหน้า

ก่อนหน้าที่กลุ่มกองกำลังเสรีภาพรัสเซียและกลุ่มกองกำลังรัสเซียอาสาจะบุกเข้าไปโจมตีสร้างความปั่นป่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เบลโกรอดเคยตกเป็นเป้าโจมตีหลายครั้งก่อนหน้า เช่นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา จู่ๆ ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้คลังสินค้า และอาคารของหน่วยงานความมั่นคงกลางหรือ FSB ประจำแคว้น

ขณะที่ก่อนหน้านั้นไม่นาน คลังน้ำมันแห่งหนึ่งเพิ่งถูกโจมตีทางอากาศใส่จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ( 31 พ.ค.)สำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันและคลังน้ำมันแห่งหนึ่งของแคว้นเบลโกรอดถูกฝูงโดรนโจมตี

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นถึงบางช่วงของเหตุการณ์ โดยเริ่มจากเสียงดังคล้ายระเบิดก่อนที่จะเกิดเพลิงลุกไหม้ ผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอดออกมาระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายจากการโจมตีครั้งนี้

ทั้งนี้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ แต่หลายฝ่ายคาดว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มกองกำลังเสรีภาพรัสเซีย กลุ่มกองกำลังรัสเซียอาสา หรืออาจเป็นฝีมือกองทัพยูเครน โดยเป้าหมายของการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันก็เพื่อลดศักยภาพของกองทัพรัสเซียไม่ให้สามารถส่งกำลังบำรุงไปที่แนวหน้าได้

และนอกจากตัดกำลังแล้ว การก่อเหตุลักษณะนี้ยังเป็นการทำสงครามจิตวิทยากับรัฐบาลปูติน เพื่อแสดงให้เห็นว่าในที่สุดสงครามก็ได้มาเคาะที่ประตูบ้านของชาวรัสเซียแล้ว

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ