รัสเซีย ใช้ขีปนาวุธถล่มกรุงเคียฟ ทำแม่-ลูกชาวยูเครนดับ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เราได้เห็นภาพการโจมตีทางอากาศระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยรัสเซียได้ใช้โดรนและขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีใส่หลายพื้นที่ของยูเครน

ขณะเดียวกัน กรุงมอสโกและอีกหลายเมืองในรัสเซียก็ถูกโจมตีด้วยโดรนปริศนาเช่นกัน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทางการยูเครนรายงานว่ารัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธโจมตียูเครนอีกครั้ง

หัวหน้าหน่วยทหารประจำกรุงเคียฟรายงานว่า รัสเซียได้โจมตีเมืองหลวงของยูเครนด้วยขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธทิ้งตัวเป็นครั้งที่ 18 ในรอบเดือน แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถยิงสกัดไว้ได้ทั้งหมด 

เอกสารลับที่ถูกอ้างเป็นข้อมูลข่าวกรองสหรัฐฯ คาดสงครามยูเครน-รัสเซีย มีแนวโน้มยืดเยื้อตลอดปี

รัสเซีย เปลี่ยนแม่ทัพสมรภูมิยูเครน หวังช่วยหนุนการสื่อสารของหน่วยงาน

อย่างไรก็ดี ผลจากการยิงสกัดทำให้เศษซากขีปนาวุธตกไปสร้างความเสียหาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ในจำนวนนี้ 1 รายเป็นเด็กหญิงวัย 11 ปีที่เสียชีวิตพร้อมแม่และอีกหนึ่งรายเป็นผู้หญิง ด้านสามีของผู้หญิงที่เสียชีวิตเล่าว่า ภรรยาของเขาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถเปิดประตูหลุมหลบภัยได้ ทำให้เศษซากขีปนาวุธตกลงมาใส่ภรรยาของเขา

การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่า สหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,900 ล้านบาทให้ยูเครน

ความช่วยเหลือชุดนี้จะประกอบไปด้วยแบตเตอรี่ของระบบป้องกันภายทางอากาศรุ่นแพทริออต ระบบต่อต้านอากาศยานรุ่นสตริงเจอร์ จรวดสำหรับระบบไฮมาร์ส กระสุนปืนรถถัง และอื่นๆ นี่ทำให้มูลค่าความช่วยเหลือด้านความมั่นคงที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครนนับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2022 เพิ่มขึ้นและพุ่งไปแตะที่ 37,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท

นอกจากประเด็นการมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน จอห์น เคอร์บียังได้ตอบคำถามกับสื่อเรื่องเหตุการณ์ที่โดรนปริศนาไปโจมตีอะพาร์ตเมนต์ใจกลางกรุงมอสโกด้วย  เคอร์บีระบุว่าสหรัฐฯ ก็ไม่มีข้อมูลเช่นกันว่าใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีแผ่นดินรัสเซียและสหรัฐฯ ไม่ได้มีสิทธิที่จะไปตรวจสอบเรื่องนี้นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวกับนักข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการโจมตีแผ่นดินรัสเซีย โดยระบุว่า สหรัฐฯ ไม่เคยชี้แนะเป้าหมายการโจมตีให้ยูเครน หน้าที่ของสหรัฐฯ คือให้อุปกรณ์และฝึกทหารยูเครนเท่านั้น ส่วนปฏิบัติการขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้นำและเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูงของยูเครน ไม่ใช่สหรัฐฯ  ส่วนประเด็นการโจมตีแผ่นดินรัสเซีย เคอร์บีย้ำหนักแน่นชัดเจนว่า สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนเรื่องนี้และไม่ต้องการเห็นใครก็ตามนำอาวุธของสหรัฐฯ ไปใช้โจมตีแผ่นดินรัสเซีย

คำพูดของเคอร์บีมีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัสเซียระบุว่ามีโดรนปริศนาจำนวน 8 ลำบินเข้าไปเพื่อโจมตีสถานที่ต่างๆ ในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย จนทำให้ประชาชนตื่นตระหนก หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้นโดยหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือทางการยูเครน  เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ รัสเซียรายงานว่ามีโดรน 8 ลำเข้าโจมตีเมืองหลวง แต่ทางการสามารถยิงสกัดและก่อกวนโดรนทั้ง 8 ลำได้ จึงไม่เกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนและประชาชน

อย่างไรก็ดี สื่อตะวันตกรายงานว่า สื่อรัสเซียที่มีเส้นสายใกล้ชิดกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซียเปิดเผยว่าจำนวนโดรนที่แท้จริงนั้นไม่ใช้ 8 ลำ แต่มีมากกว่า 30 ลำที่พุ่งเข้าโจมตีกรุงมอสโก และมี 3 ลำสร้างความเสียหายแก่อาคารในพื้นที่ทางตะวันตกของกรุงมอสโก

นักวิเคราะห์บางส่วนประเมินว่าในจำนวนโดรนที่เข้าโจมตีกรุงมอสโกทั้งหมด อาจมีอย่างน้อย 1 ลำที่เป็นโดรนของยูเครน และคาดว่าอาจเป็นโดรนรุ่น UJ-22 ที่ผลิตโดยบริษัทยูเคอาร์เจ็ท สามารถบินได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และบรรทุกอาวุธขนาด 20 กิโลกรัมได้

สาเหตุที่นักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่ายูเครนอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีโดยใช้โดรนรุ่น UJ-22 ครั้งนี้เป็นเพราะที่ผ่านมา ยูเครนก็เคยพยายามใช้โดรนรุ่นนี้โจมตีแผ่นดินรัสเซียมาก่อน

ตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถระบุได้ว่า ยูเครนคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีทางอากาศใส่กรุงมอสโกหรือไม่ แต่คำถามที่หลายฝ่ายสนใจมากกว่าคือ

ถ้ายูเครนเป็นผู้ก่อเหตุ อะไรที่เป็นแรงจูงใจในการทำเช่นนั้น และถ้ายูเครนโจมตีทางอากาศใส่รัสเซียจริง ชาติตะวันตกที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของยูเครนจะว่าอย่างไรบ้าง

สำหรับประเด็นแรก อะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้ยูเครนอาจกล้าโจมตีแผ่นดินรัสเซีย ทำไมต้องเป็นตอนนี้ และยูเครนจะได้อะไรจากการโจมตีเมืองหลวงของรัสเซีย  ปีเตอร์ โบมอนต์ บรรณาธิการข่าวต่างประเทศของสำนักข่าวเดอะการ์เดียนให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นอาจเป็นการเตือนรัสเซียก่อนปฏิบัติการโต้กลับใหญ่ของยูเครนจะมาถึง

นอกจากนี้ การโจมตีเช่นนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างผลกระทบทางจิตใจให้กับชาวรัสเซียที่เป็นกลุ่มชนชั้นนำหรือคนรวยในกรุงมอสโกเป็นหลัก

เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับสงครามที่รัสเซียเป็นผู้ก่อ และยูเครนอาจต้องการทำลายมายาคติที่คนเหล่านี้เชื่อว่ารัสเซียแข็งแกร่งจนไม่มีอะไรมาทำลายได้

ส่วนประเด็นที่สอง ถ้ายูเครนโจมตีทางอากาศใส่รัสเซียจริง ชาติตะวันตกจะให้ความเห็นอย่างไรสำหรับประเด็นนี้มี 2 ประเทศที่ออกมาให้ความเห็นคือ สหราชอาณาจักรและเยอรมนี  เริ่มที่ทางสหราชอาณาจักร เจมส์ เคลฟเวอร์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ขณะเยือนประเทศเอสโตเนียเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์โดรนปริศนาโจมตีกรุงมอสโก โดยระบุว่า

ยูเครนมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะปกป้องตนเองโดยเฉพาะบนแผ่นดินยูเครน แต่ยูเครนก็มีสิทธิที่จะโจมตีข้ามไปยังพรมแดนรัสเซียเช่นกัน เพื่อบั่นทอนความสามารถของรัสเซียในการส่งกำลังเข้าไปรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ เจมส์ เคลฟเวอร์ลีย้ำว่า คำอธิบายที่ว่ายูเครนมีสิทธิโจมตีข้ามไปยังแผ่นดินรัสเซียเป็นการประเมินโดยทั่วไป ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงกรณีใดเป็นพิเศษ และการโจมตีข้ามพรมแดนต้องเป็นการโจมตีเป้าหมายทางการทหารเท่านั้น

ขณะที่ สเตฟเฟน เฮเบสทริท โฆษกรัฐบาลเยอรมนี ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร โดยระบุว่า  ถ้าพิจารณาตามมุมมองของกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐบาลเยอรมันถือว่าการโจมตีของกองกำลังยูเครนใส่โครงสร้างพื้นฐานทางการทหารบนแผ่นดินรัสเซีย มีความชอบธรรมและสามารถทำได้ เนื่องจากถือเป็นการโจมตีเพื่อป้องกันตนเองจากสิ่งที่เป็นต้นเหตุของสงคราม

ถ้าฟังจากคำตอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรและโฆษกรัฐบาลเยอรมนี หมายความว่ายูเครนสามารถโจมตีแผ่นดินรัสเซียได้ แต่เป้าหมายในการโจมตีต้องเป็นโครงสร้างทางการทหารเท่านั้น  หลังจากที่มีความเห็นเช่นนี้ออกมา ทางรัสเซียก็ได้ออกมาโต้ตอบแทบจะทันที

คนที่ออกมาตอบโต้เรื่องนี้คือ ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติและอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย โดยเขาระบุว่าสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามที่ไม่มีการประกาศกับรัสเซียผ่านการสนับสนุนอาวุธต่างๆ ให้ยูเครน

นอกจากนี้ เขายังระบุว่าเจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักรอาจเป็นเป้าหมายทางการทหารโดยชอบธรรมของกองทัพรัสเซียเช่นเดียวกัน หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรออกมาให้ความเห็นดังกล่าว

ท่ามกลางการปะทะคารมระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของชาติตะวันตกและรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องการโจมตีแผ่นดินรัสเซีย

ล่าสุดวันนี้ กลุ่มกองกำลังรัสเซียอาสาและกองกำลังเสรีภาพรัสเซียที่เคยก่อเหตุความไม่สงบในแคว้นเบลโกรอดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออกมาประกาศว่าจะปฏิบัติการบนแผ่นดินรัสเซียอีกครั้ง

สมาชิกกองกำลังรัสเซียอาสาระบุว่า ปฏิบัติการรอบนี้จะเกิดขึ้นที่เมืองชีเบียคิโน ในแคว้นเบลโกรอด แต่ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะกองกำลังจะไม่ทำร้ายประชาชนรัสเซีย

ขณะที่สมาชิกจากกองกำลังเสรีภาพรัสเซียระบุว่ากำลังจะปลดปล่อยแผ่นดินรัสเซียออกจากระบอบการปกครองของประธานาธิบดีปูตินโดยจะเริ่มตั้งแต่แถบรัสเซียตะวันตกอย่างแคว้นเบลโกรอด ไปจนถึงแคว้นวลาดิวอสต็อกในภูมิภาคตะวันออกไกล

ท่ามกลางการโจมตีและความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั้งบนแผ่นดินรัสเซียและยูเครน วันนี้ประธานาธิบดียูเครนได้เดินทางไปยังประเทศมอลโดวา ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันตก เพื่อเข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญกับชาติยุโรป

วันนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้เดินทางไปยังมอลโดวาเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาคมการเมืองยุโรปครั้งที่ 2

โดยเมื่อไปถึง ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ยูเครนพร้อมที่จะเข้าเป็นสมาชิกนาโตแล้ว นอกจากนี้

ผู้นำยูเครนยังได้พูดถึงประเด็นหลักประกันความมั่นคงด้วย โดยระบุว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อยูเครนและมอลโดวา

ขณะเดียวกันที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ บรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกนาโตได้จัดประชุมเพื่อหารือเรื่องการรับรองสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโตและการสนับสนุนยูเครน

สำหรับการสนับสนุนยูเครน หนึ่งในประเด็นที่เป็นวาระหลักคือ การให้หลักประกันความมั่นคงแก่ยูเครนและผลักดันให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโตโดยเร็วที่สุด

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ยืนยันว่ารัสเซียไม่สามารถกำหนดได้ว่ายูเครนจะได้เข้าเป็นสมาชิกนาโตหรือไม่ เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของชาติสมาชิกนาโตและยูเครนเท่านั้น

TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ