มาเลเซียหนุนโครงการอสังหาฯ แสนล้านดอลลาร์ของบริษัทจีน

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม เปิดเผยว่า มาเลเซียกำลังจะตั้ง “เขตการเงินพิเศษ” ในโครงการมูลค่าแสนล้านดอลลาร์ของ คันทรี การเดน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน พร้อมกับเสนอมาตรการส่งเสริมเพื่อดึงดูดการลงทุน

โดยโครงการ “ฟอเรสต์ซิตี” กำลังถูกสร้างขึ้นบนเกาะ 4 แห่งที่เกิดจากการถมทะเลในรัฐยะโฮร์ ใกล้กับสิงคโปร์ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร 700,000 คน ภายในปี 2035 รวมถึงเป็นที่ตั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโรงเรียนอีกหลายแห่ง

 

ฟอเรสต์ซิตี เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างคันทรี การ์เดน ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ที่สุดของจีน และเอสพลานาด ดังกา 88 บริษัทเอกชนซึ่งรัฐบาลรัฐยะโฮร์และสุลต่านรัฐยะโฮร์ให้การสนับสนุน โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาฯ ในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของคันทรี การ์เดน

มาตรการส่งเสริมที่เสนอให้ฟอเรสต์ซิตีเพิ่มเติมประกอบด้วย ภาษีเงินได้อัตราพิเศษที่ 15 เปอร์เซ็นต์ สำหรับแรงงานมีทักษะ และวีซ่าแบบเข้าออกได้หลายครั้ง ขณะที่เขตการเงินพิเศษที่จะดำเนินการในอนาคตอันใกล้ จะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจในฟอเรสต์ซิตี

ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ คันทรี การ์เดน กำลังเผชิญปัญหาการเงินรุมเร้าอย่างหนัก โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 2 ชุด คิดเป็นมูลค่ารวม 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า วิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจจะลุกลามไปยังภาคการเงินและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด คันทรี การ์เดน ออกมาระบุว่า โครงการแสนล้านดอลลาร์ในมาเลเซียจะเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ และบริษัทมีสินทรัพย์เพียงพอ ขณะที่กิจการโดยรวมในภูมิภาคดังกล่าวยังปลอดภัยและมั่นคง