ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน ทำให้มีของหลายอย่างที่สามารถถูกสร้างและสังเคราะห์ขึ้นในห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ที่สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องเลี้ยงหรือฆ่าสัตว์จริง ๆ ไปจนถึงสินค้าฟุ่มเฟือยอย่าง “เพชร” ที่ทุกวันนี้สามารถสังเคราะห์ขึ้นในแล็บได้แล้ว โดยไม่ต้องไปขุดเหมืองเพชรให้เปลืองทรัพยากรหรือสร้างผลกระทบแต่อย่างใด
ชาวเน็ตงง! "น้ำแข็งย่าง" สตรีทฟู้ดยอดฮิต ช่วยดับร้อนในจีน
"เพนตากอน" เปิดเว็บไซต์รายงานปรากฏการณ์ UFO ครบวงจร
ไขปริศนาโครโมโซม Y ของเพศชาย ปูทางการแก้ภาวะมีบุตรยาก
เพชรสังเคราะห์เหล่านี้กำลังได้รับความนิยมมากในสหรัฐฯ โดยชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือกซื้อแหวนหมั้นที่ทำจากเพชรสังเคราะห์มากกว่าเพชรจากธรรมชาติ กลายเป็นการแข่งขันและภัยคุกคามใหม่ต่อตลาดเพชรแท้
ทั้งนี้ ความต้องการเพชรแท้โดยรวมลดลงไปพอสมควรหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคหันไปให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวให้หายอยากมากกว่า จนลดค่าใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาในตลาดของเพชรสังเคราะห์จากห้องแล็บ ซึ่งมีราคาถูกกว่าเพชรตามธรรมชาติ เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับ โดยเฉพาะแหวน ทำให้มีราคาที่โดนใจผู้ซื้อมากกว่า และราคากำลังยิ่งถูกลงเรื่อย ๆ ในสหรัฐฯ
ที่เป็นเช่นนั้น คนวงในในอุตสาหกรรมเพชรระบุว่า เป็นเพราะความต้องการเพชรที่สังเคราะห์ในห้องแล็บเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีการสร้างเพชรแบบนี้ออกสู่ตลาดมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้หมายความว่าแหวนเพชรจริง ๆ กำลังจะลดราคาลงตามแหวนเพชรสังเคราะห์ โดยผลกระทบจำกัดอยู่ที่ตลาดเพชรดิบ ซึ่งกระทบกับคนในอุตสาหกรรมทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นคนงานเหมือง ช่างเจียระไน หรือพ่อค้าคนกลาง
คำถามสำคัญก็คือว่า ความต้องการเพชรธรรมชาติที่เริ่มลดลงนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรหรือไม่ และที่สำคัญคือ การรุกล้ำเข้ามาของอัญมณีสังเคราะห์ในห้องแล็บจะแพร่กระจายไปยังอัญมณีหรือพลอยอื่น ๆ ที่มีราคาแพงกว่าหรือไม่
เดอ เบียร์ส (De Beers) ผู้นำในอุตสาหกรรมเพชร ยืนยันว่า จุดอ่อนของวงการเพชรแท้ในปัจจุบันคือ อุปสงค์หรือความต้องการที่ลดลงตามธรรมชาติหลังจากโควิด-19 โดยบริษัทยอมรับว่ามีเพชรสังเคราะห์เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดกลุ่มแหวนหมั้นราคาถูก แต่มองว่า ไม่น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างขนาดนั้น
พอล โรว์ลีย์ หัวหน้าธุรกิจการค้าเพชรของ เดอ เบียร์ส กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้มีการผลิตเพชรสังเคราะห์ในห้องแล็บเช่นกัน โดยขายควบคู่กันไปกับเพชรแท้ เป็นการตลาดแบบ Cannibalization หรือการยอมลดและแย่งส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจเดียวกันด้วยตัวเอง เพื่อต่อยอดธุรกิจให้อยู่รอด
“สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว ผมไม่คิดว่าเราควรปฏิเสธสิ่งนั้น เรามองว่าปัญหาที่แท้จริงเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจมหภาคมากกว่า” โรว์ลีย์กล่าว
เพชรที่สังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นหินที่เหมือนกันทางกายภาพที่สามารถผลิตได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมเพชรธรรมชาติมานานแล้ว เพราะเป็นทางเลือกที่ถูกกว่า และมีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือสังคมน้อยกว่า
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เพชรสังเคราะห์ยังไม่ได้เข้ามาแย่งตลาดเพชรแท้มากนัก โดยจะจำกัดอยู่ในกลุ่ม “ของขวัญที่มีราคาถูก” แต่สถานการณ์ดังกล่าวกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยเพชรที่สังเคราะห์ในห้องแล็บเริ่มเข้ามากัดกินตลาดแหวนเพชรที่สำคัญของสหรัฐฯ
จากราคาเพชรสังเคราะห์ที่ถูกกว่าเพชรแท้ ทำให้ผู้ค้าเพชรหลายเจ้าต้องมีสินค้าในกลุ่มที่เป็นเพชรแท้ราคาถูก เช่น เดอ เบียร์ส ตอบสนองต่อความต้องการเพชรแท้ที่ลดลงด้วยการลดราคาอย่างรุนแรงสำหรับสินค้าประเภท “Select Makeable” หรือเพชรหยาบขนาด 2-4 กะรัต ซึ่งเมื่อเจียระไนจะได้เพชรเม็ดกลางสำหรับแหวนเจ้าสาวที่แม้มีคุณภาพแต่ไม่สมบูรณ์แบบ
เดอ เบียร์ส ลดราคาสินค้าในหมวดหมู่นี้มากกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา รวมถึงการลดราคามากกว่า 15% ในเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา
โดยทั่วไปแล้ว เดอเบียร์ส จะสงวนการปรับลดราคาอย่างรุนแรงไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้จำเป็นต้องทำ ซึ่งราคาสินค้าที่ลดลงล่าสุดเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกเหนือจากวิกฤตฟองสบู่ในอดีต
ในเดือนมิถุนายน ปี 2022 เดอ เบียร์ส ตั้งราคาสินค้ากลุ่ม Select Makeable ไว้ที่ประมาณ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49,500 บาท) ต่อกะรัต แต่ ณ เดือนกรกฎาคมปีนี้ ราคาลดลงเหลือประมาณ 850 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,000 บาท) ต่อกะรัต และอาจมีแผนปรับลดอีก
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดประการหนึ่งที่แสดงถึงภัยคุกคามจากเพชรที่สังเคราะห์ในห้องแล็บคือ ส่วนแบ่งการส่งออกเพชรจากอินเดีย ซึ่ง ณ เดือนมิถุนายน 2023 เพชรจากห้องแล็บคิดเป็นประมาณ 9% ของการส่งออก เทียบกับประมาณ 1% เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ในขณะที่เพชรสังเคราะห์ในห้องแล็บกำลังส่งผลกระทบต่อความต้องการเพชรธรรมชาติ แต่อุตสาหกรรมและการผลิตที่พุ่งพรวดก็สร้างปัญหาเช่นกัน เพราะเมื่ออุปทานมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ราคาของเพชรสังเคราะห์ดิ่งลงยิ่งกว่าเพชรธรรมชาติ
ประมาณ 5 ปีที่แล้ว อัญมณีที่สังเคราะห์ในห้องแล็บจะขายในราคาถูกกว่าอัญมณีแท้ประมาณ 20% แต่ปัจจุบันราคาถูกลงไปถึง 80% ของราคาอัญมณีแม้ เนื่องจากผู้ค้าปลีกกดดันให้ราคาลดลงมากขึ้น และต้นทุนในการทำให้ราคาลดลง ราคาหินขัดในตลาดขายส่งลดลงมากกว่าครึ่งในปีนี้เพียงปีเดียว
เดอ เบียร์ส เริ่มขายเพชรสังเคราะห์ในห้องแล็บของตัวเองตั้งแต่ปี 2018 โดยมีราคาถูกอย่างมากจากราคาปกติ บริษัทคาดว่าราคาเพชรในห้องแล็บจะยังคงร่วงลงต่อไป จากอุปทานที่เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น
โรว์ลีย์บอกว่า ส่วนต่างราคาระหว่างเพชรธรรมชาติและเพชรที่ผลิตในห้องแล็บจะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งสอง
“ด้วยอุปทานที่เพิ่มขึ้น เราจะเห็นว่าราคาตกลงไปถึงระดับที่ไม่สามารถแข่งขันกับแหวนเพชรแม้ในระยะยาวำด้อีกแล้วเพราะมันราคาถูกเกินไป ... ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน และขอบเขตและความหายากของเพชรธรรมชาติก็เป็นข้อเสนอที่แตกต่าง” โรว์ลีย์กล่าว
เรียบเรียงจาก Fortune
ภาพจาก Lionel BONAVENTURE / AFP
ประกาศฉบับที่ 19 “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” เตือน! พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
วอลเลย์บอลหญิงไทย ชนะ เวียดนาม 3-1 เซต ลิ่วดวล ญี่ปุ่น ศึกชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023