แรคคูน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติในทวีปยุโรป ได้แพร่พันธุ์ไปทั่วประเทศเยอรมนีแล้ว ซึ่งแรคคูนไม่ถือว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ และสามารถล่าได้ในเยอรมนีแบบถูกกฎหมาย
ไมเคิล ไรส์ อดีตช่างซ่อมรถ ที่ผันตัวมาเป็นพ่อค้าเนื้อ มีใบอนุญาตล่าแรคคูนบนพื้นที่ 2,000 เฮกตาร์ (ราว 12,500 ไร่) โดยไรส์เริ่มเกิดไอเดียนำเนื้อแรคคูนมาทำลูกชิ้น ตอนที่ถูกขอให้เป็นตัวแทนเขต เข้าร่วมงานแสดงสินค้าการเกษตรกรุงเบอร์ลิน ที่ใช้ชื่อว่า เดอะ กรีน วีค (The Green Week) เมื่อปี 2023
ไรส์ กล่าวว่า จากสถิติของทางการ แต่ละปีมีแรคคูนถูกจับราว 3-4 แสนตัว ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมแรคคูนที่ถูกจับในสวนผักชุมชน โดยแรคคูนที่ตายส่วนใหญ่มักจะถูกทิ้ง ตนเลยคิดว่า น่าจะเอาพวกมันมาทำอะไรได้
ซึ่งขั้นตอนในการแปรรูปเนื้อแรคคูน จะเหมือนกับเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่ได้มาจากการล่า คือ จะต้องให้สัตวแพทย์มาตรวจซากสัตว์ทั้งหมดที่ร้าน และเก็บตัวอย่างไปตรวจในห้องแล็บ จากนั้นให้ตัวแทนของสหภาพยุโรป หรืออียูประทับรับรอง จึงจะสามารถแปรรูปได้
ไรส์ระบุว่า แรคคูนหนึ่งตัวให้เนื้อประมาณ 2 กิโล ถึง 2 กิโลครึ่ง ส่วนเรื่องรสชาติ ลูกค้าหลายคนของเขาบอกว่า ลูกชิ้นแรคคูนให้รสสัมผัสนุ่มฟูมาก ทำให้ไรส์ต่อยอดเป็นซาลามีเนื้อแรคคูนและเนื้อกวาง เพราะเนื้อแรคคูนที่นุ่มกับเนื้อกวางที่แห้งและไขมันต่ำ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ตรงกลาง และยังเป็นอีกทางเลือกให้กับคนที่ไม่อยากทาน หรือทานเนื้อหมูหรือหมูป่าไม่ได้ด้วย
ซึ่งขณะนี้ ไรส์มีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อแรคคูนแล้ว 6 อย่างด้วยกัน ตั้งแต่เนื้อบดไปจนถึงไส้กรอก และนอกจากหน้าร้านปกติแล้ว ไรส์ยังมีร้านค้าออนไลน์และรถฟู้ดทรักด้วย โดยไส้กรอกแบบคนัควูร์สท์ขายดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไรส์ย้ำว่า เขาไม่ได้เป็นพวกเกลียดแรคคูนแต่อย่างใด โดยเขาคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่น่ารักด้วยซ้ำ แต่แม้จะเป็นสัตว์ที่น่ารัก พวกมันก็กินลูกเป็ดหรือสัตว์เล็กอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งเราก็ต้องควบคุมประชากรของพวกมันด้วยเช่นกัน