สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียใช้อาวุธเคมีต้องห้ามในสงครามยูเครน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์กล่าวหาว่า รัสเซียใช้ “คลอโรพิคริน” อาวุธเคมีต้องห้าม ในการทำสงครามกับยูเครน

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ กล่าวหารัสเซียว่าใช้อาวุธเคมีต้องห้ามในการทำสงครามกับยูเครน และประกาศบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อบริษัทและหน่วยงานรัฐบาลของรัสเซีย

ในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า “รัสเซียได้ใช้อาวุธเคมีคลอโรพิคริน (Chloropicrin) กับกองกำลังยูเครน ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (CWC)” และเสริมว่า “รัสเซียยังใช้ “สารควบคุมจลาจล” หรือแก๊สน้ำตาในช่วงสงคราม ซึ่งละเมิด CWC ด้วยเช่นกัน

คอนเทนต์แนะนำ
เรือรบบรรทุกเครื่องบิน “ฝูเจี้ยน” ของจีน ทดสอบในทะเลครั้งแรก
ยูเครนคาดเครื่องบินรบ F-16 ถึงมือภายในเดือน พ.ค. นี้

สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียใช้อาวุธเคมีต้องห้ามในสงครามยูเครน Reuters/-
ทหารยูเครนฝึกซ้อมการรับบมืออาวุธเคมี

“การใช้สารเคมีดังกล่าวไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดี่ยว ๆ และอาจขับเคลื่อนโดยความปรารถนาของกองกำลังรัสเซียที่จะขับไล่กองกำลังยูเครนออกจากที่มั่นที่มีการป้องกัน และบรรลุผลทางยุทธวิธีในสนามรบ” คำแถลงระบุ

ข้อสรุปของสหรัฐฯ สอดคล้องกับคำให้การของกองทหารยูเครนที่กล่าวว่า พวกเขาเผชิญกับก๊าซและสารเคมีระคายเคืองอื่น ๆ มากขึ้นในบางพื้นที่ของแนวหน้าที่มีการปะทะกับกองกำลังรัสเซียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ทหารยูเครน 2 นายในแนวหน้าที่รอดชีวิตจากการโจมตีด้วยแก๊สเคมีบอกว่า พวกเขาได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งมีรอยไหม้และรอยฟกช้ำที่ใบหน้า รวมถึงภายในปากและลำคอ

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค. กองทัพยูเครนกล่าวว่า พวกเขาได้บันทึกเหตุการณ์มากกว่า 1,000 เหตุการณ์ที่รัสเซียใช้ “อาวุธแก๊สน้ำตาใส่สารเคมีพิษซึ่งห้ามใช้ในการทำสงคราม” โดยในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวเกิดขึ้น 250 เหตุการณ์

ที่ผ่านมา รัสเซียปฏิเสธการใช้อาวุธเคมีมาโดยตลอด สถานทูตรัสเซียในเนเธอร์แลนด์ระบุเมื่อเดือน ม.ค. ว่า “ไม่มีอาวุธเคมีในคลังของกองทัพรัสเซีย ตามที่ได้รับการยืนยันจากการสืบสวนระหว่างประเทศ”

คลอโรพิครินเป็นสารเคมีที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่หลังจากนั้นมาไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในทางการทหารอีกต่อไป และปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้ในการเกษตร

ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) คลอโรพิครินทำให้เกิดผลระคายเคืองต่อปอด ดวงตา และผิวหนัง และอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงเป็นเวลานานหลายสัปดาห์

กระทรวงการต่างประเทศาหรัฐฯ ระบุว่า “ภายใต้กฎหมายต่อต้านสงครามอาวุธเคมีและชีวภาพปี 1991 กระทรวงฯ กำลังกำหนดข้อจำกัดใหม่ในด้านการเงินการทหารต่างประเทศ วงเงินสินเชื่อของรัฐบาลสหรัฐฯ และใบอนุญาตส่งออกสิ่งของด้านกลาโหมและสิ่งของที่มีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติที่ส่งไปยังรัสเซีย”

รายงานเสริมว่า กำลังคว่ำบาตรหน่วยงานรัฐบาลรัสเซีย 3 แห่งที่เชื่อมโยงกับโครงการอาวุธเคมีและชีวภาพ และบริษัทรัสเซีย 4 แห่งที่มีส่วนร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลเหล่านั้น

ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยเตือนรัสเซียให้ระวังการทำสงครามเคมีในยูเครน โดยช่วงแรกหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มขึ้น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวว่า นาโตจะตอบโต้หากรัสเซียใช้อาวุธเคมีในยูเครน

และเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้วที่การประชุมสุดยอด G7 รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกกล่าวในแถลงการณ์ร่วมว่า “รัสเซียจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาร้ายแรง จากการใช้อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรือนิวเคลียร์”

การใช้อาวุธเคมีเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยรัสเซียได้ลงนามในสนธิสัญญาเหล่านั้นและอ้างว่าไม่มีอาวุธเคมี แต่ที่ผ่านมารัสเซียดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงกับการใช้ยาพิษ โดยเฉพาะสารทำลายประสาท “โนวิช็อก” ที่ใช้ในการสังหารผู้ที่วิจารณ์หรือต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย

 

เรียบเรียงจาก CNN

ตรวจหวยงวดนี้ - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ลอตเตอรี่ 2/5/67

ประกาศเตือนฉบับที่ 3 “พายุฤดูร้อน” 32 จังหวัดเตรียมรับมือ 3-4 พ.ค.

อาหารแก้อ่อนเพลีย-เหนื่อยง่าย เติมความสดชื่น จากการขาดวิตามินบางชนิด

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ