หมายเหตุ: บทความนี้มีเนื้อหาความรุนแรงทางเพศที่อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ
“เหตุอื้อฉาวเบิร์นนิงซัน” (Burning Sun Scandal) เป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก กับด้านมืดของสังคมเกาหลีใต้ที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าจะ “ดำมืดยิ่งกว่าสีดำ” ถึงขนาดนี้
เรื่องราวของเบิร์นนิงซันกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังสำนักข่าวระดับโลกอย่าง BBC ได้เผยแพร่วิดีโอสารคดีเบื้องลึกเบื้องหลังการทำข่าวอื้อฉาวนี้เมื่อวันที่ 19 พ.ค. พร้อมด้วยรายละเอียดที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
เบิร์นนิงซัน ... ลานประหารชีวิตหญิงสาวนับไม่ถ้วน
เบิร์นนิงซันคือชื่อของไนต์คลับแห่งหนึ่งบนโรงแรมเลอเมอริเดียน ในย่านกังนัมของกรุงโซล เป็นสถานที่แฮงก์เอาต์ยอดนิยมของคนดังและเศรษฐีเกาหลีใต้ แต่ไม่มีใครเคยรู้เลยว่า ที่ห้อง VIP ของคลับแห่งนี้ มีทั้งการค้าประเวณี การล่วงละเมิดทางเพศ การถ่ายภาพหรือวิดีโอผู้เสียหาย และยาเสพติด
ที่น่าตกใจกว่านั้น คือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้มีทั้งศิลปิน คนดัง เช่น ซึงรี อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ BIGBANG, จอง จุนยอง อดีตนักร้องและนายแบบ, ชเวจงฮุน อดีตมือกีตาร์และหัวหน้าวง FTISLAND เป็นต้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายด้วย
เรื่องลับ ๆ ของคลับแห่งนี้แดงขึ้นมาในปี 2019 เมื่อมีการรายงานข่าวกรณีที่ คิม ซัง-คโย นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางไปเที่ยวเบิร์นนิงซันคลับ ถูกพนักงานของคลับทำร้าย หลังพบเห็นหญิงสาวคนหนึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศและพยายามเข้าไปช่วย
ในตอนแรกหลักฐานและการสืบสวนต่าง ๆ โฟกัสอยู่ที่คดีทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่เรื่องราวเริ่มใหญ่โตมากขึ้น เมื่อมีอดีตพนักงานของร้านออกมาแฉว่า มีการใช้ยาเสพติดในร้าน และลูกค้า VIP รายหนึ่งแฉว่า พนักงานร้านเสนอผู้หญิงให้กับเขา พร้อมยาเสียสาว และได้รับคลิปวิดีโอที่แสดงภาพ “ผู้หญิงถูกวางยากำลังถูกข่มขืน”
หลังจากนั้นก็เริ่มมีผู้เสียหายและพยานมากขึ้นเรื่อย ๆ ออกมาเปิดเผยถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเบิร์นนิงซันคลับ โดยเฉพาะเมื่อมีแชตหลุดออกมาจากกลุ่มลับ ที่มีการส่งวิดีโอและรูปภาพของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ และมีเนื้อหาการพูดคุยเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อ
สารคดีใหม่ของ BBC ระบุว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการรายงานข่าวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการบันเทิงเกาหลีใต้คือนักข่าวบันเทิง “พัค ฮโย-ซิล” และ “คัง คยอง-ยุน“
ปิศาจในคราบเจ้าชาย
พัคเปิดเผยว่า ในปี 2016 เธอได้รายงานข่าวพฤติกรรม “โมลคา” (Molka) หรือการตั้งกล้องแอบถ่ายเนื้อหาทางเพศโดยอีกฝ่ายไม่ยินยอม ของ จอง จุนยอง ซึ่งแอบถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสาว ซึ่งฝ่ายหญิงรู้ตัวและไม่พอใจ เพราะกลัวว่าคลิปจะหลุด จนเรื่องไปถึงตำรวจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือจากจองเพื่อจะนำโทรศัพท์มือถือของเขาไปตรวจสอบ แต่คาดว่าเขาไม่ต้องการให้ตำรวจเป็นคนตรวจสอบ จึงนำโทรศัพท์ไปฝากไว้ที่แล็บนิติเวชแห่งหนึ่ง ให้ทางแล็บเขียนรายงานส่งให้ตำรวจแทน
ตอนแรกแฟนสาวจะเอาเรื่อง จอง จุนยอง แต่ต่อมาได้กลับคำพูด และยอมขอโทษฝ่ายชาย ทำให้เกิดกระแสตีกลับมายังตัวเธอรวมถึงนักข่าวที่รายงานเรื่องนี้อย่างพัคด้วย
พัคเล่าว่า เธอเริ่มถูกโจมตีผ่านช่องทางออนไลน์ มีคนโทรมาหาเธอจำนวนมาก บ้างยังส่งรูปลามกอนาจารมาให้ ความเครียดในช่วงนั้นทำให้เธอแท้งลูกไปถึง 2 ครั้ง กลายเป็นเหตุการณ์ที่หลอกหลอนเธอไม่หยุด
หลังเหตุการณ์ในปี 2016 สิ้นสุดลง ทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ข้อมูลบางส่วนในโทรศัพท์ของจองได้ถูกคัดลอกข้อมูลเอาไว้ จนเมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวเบิร์นนิงซันขึ้น ผู้ให้ข้อมูลที่ไม่เปิดเผยตัวตนซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ของจอง ได้ปล่อยแชตลับออกมา กลายเป็นหลักฐานสำคัญของคดี
แชตลับนั้นยังไปถึงมือ คัง คยองยุน ด้วย ข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วยข้อความแชทในแอปฯ กาเกาทอล์ก (KakaoTalk) ช่วงปี 2015-2016
คังบอกว่า “ใจฉันยังเจ็บอยู่เลย” เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่พบวิดีโอและรูปภาพทางเพศของผู้หญิงหมดสติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปินเกาหลีจำนวนหนึ่ง ซึ่งพวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับการรุมโทรมผู้หญิงที่หมดสติ การวางยา การข่มขืน โดยมีการหัวเราะซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยกับที่ทำลงไป
“แฟนคลับของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่การสนทนาเหล่านี้ได้เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของผู้ชายเหล่านี้ที่แสดงภาพลักษณ์ที่อ่อนโยน แต่พวกเขาน่ารังเกียจมาก ทำราวกับผู้หญิงเป็นของเล่น ... พวกเขาคุยโวและหัวเราะเยาะเกี่ยวกับสิ่งที่ราวกับว่าพวกเธอเป็นถ้วยรางวัลของพวกเขา” เธอกล่าวเสริม
ชีวิตคนไม่ต่างอะไรจากสินค้า
สารคดี BBC เปิดเผยว่า เพื่อเปิดคลับที่ใหญ่ที่สุดในกังนัม ซึงรีต้องการเงินทุนจำนวนมหาศาล ในเดือน ธ.ค. 2017 เขาจึงปิดเกาะแห่งหนึ่งในปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์เพื่อจัดงานเลี้ยงวันเกิด เชิญเศรษฐีที่เขาต้องการให้ร่วมลงทุนมางานปาร์ตี้นั้น และ “พาหญิงสาวหลายสิบคนจากเกาหลีไปที่รีสอร์ทด้วย”
ผลสุดท้าย เขาได้รับการลงทุนมหาศาลโดยใช้หญิงสาวเหล่านั้นเป้นข้อแลกเปลี่ยน และเปิดคลับเบิร์นนิงซันได้สำเร็จ
อดีตพนักงานรายหนึ่งที่ทำหน้าที่ MD หรือผู้จัดหาสินค้า คอยจัดการดูแลให้มีสาว ๆ ในคลับเพื่อรองรับแขกวีไอพี ให้สัมภาษณ์ว่า “เราจะไปพบแขกหรือวีไอพีที่ทางเข้าแล้วลงบันได จากนั้นเราจะพาแขกทั่วไปไปยังบริเวณเวที ในขณะที่แจกวีไอพีจะถูกนำไปที่โต๊ะโดยตรง”
ด้าน โก อึนซัง นักข่าวคนแรก ๆ ที่สืบสวนเรื่องเบิร์นนิงซัน กล่าวว่า “หากต้องการจองโต๊ะเหล่านี้ในวันธรรมดา จะต้องจ่ายขั้นต่ำ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ต้องจ่าย 7500 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าเป็นเทศกาลอย่างวันฮาโลวีนหรือคริสต์มาส จะมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ไปจนถึง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อโต๊ะ”
โกบอกว่า “เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคาดหวังบางสิ่งที่พิเศษ ‘ฉันใช้เงินไปมากมายขนาดนี้ คุณให้ความสุขอะไรตอบแทนฉันได้บ้าง?’ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มสร้างพื้นที่ลับสำหรับเฉพาะวีไอพี”
อดีตพนักงานเสริมว่า เพื่อดึงดูดลูกค้าผู้ชาย MD จะแอบถ่ายรูปผู้หญิงสวยที่อยู่ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาเที่ยวหรือเป็นใครก็ตาม แล้วส่งให้วีไอพี เตรียมยาเสียสาวไว้ให้ มีห้องหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในคลับอย่างไม่น่าเชื่อ มียามมากมายเฝ้าอยู่นอกห้อง และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในนั้นก็ไม่มีใครได้ยินอะไรเลย
นักข่าวโกเล่าว่า ลูกค้าวีไอพีคนหนึ่งที่เคยพบบอกว่า “ถ้าลูกค้าวีไอพีเลือกผู้หญิงคนหนึ่งแล้วพูดว่า ‘พาตัวผู้หญิงคนนั้นมาหาฉัน’ MD จะต้องทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เธอหมดสติ จากนั้นวีไอพีจะพาเธอไปที่โรงแรมหรือขึ้นรถไปยังสถานที่อื่น”
หญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นแขกประจำของเบิร์นนิงซัน เล่าให้ BBC ฟังถึงประสบการณ์ที่เคยเจอว่า “เมื่อฉันไปเบิร์นนิงซัน เราจะได้โต๊ะสำหรับตัวเองและสาว ๆ ทุกคน หลังจากที่ฉันดื่มไป 1-2 แก้ว ฉันไปห้องน้ำกับเพื่อนแล้วพูดว่า ‘วันนี้ฉันรู้สึกแปลก ๆ ฉันเมาเร็วมาก ฉันคิดว่าฉันไม่ควรดื่มอีกต่อไป’ จากนั้นเราก็กลับมาที่ที่นั่งของเรา แต่แล้วจู่ ๆ ฉันก็ตื่นขึ้นมาบนเตียง”
เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักในโรงแรมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยสั่งเครื่องดื่มให้เธอที่ร้านเบิร์นนิงซัน “ทันใดนั้นเขาก็พุ่งมาหาฉัน และถอดเสื้อผ้าของฉันออก ฉันพยายามจะกรีดร้องแต่เขาก็ปิดปากฉันไว้ และจากด้านบนเขาก็นั่งทับฉันและกดฉันลง เพราะฉันกำลังกรีดร้อง เขาจึงปิดปากฉันด้วยมือทั้งสองข้าง ฉันหายใจไม่ออก ปากของฉันเจ็บมาก แต่เพราะเขานั่งทับฉัน ซี่โครงของฉันก็เจ็บเหมือนกัน ฉันพยายามดิ้นรนมากแค่ไหนมันก็ไม่ได้ผล ฉันจึงยอมแพ้”
เธอเล่าต่อว่า “ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะฆ่าฉัน ฉันเจ็บปวดมากแต่เขาก็ไม่หยุด และเขาก็พยายามกระทำต่อไป ฉันจึงยอมแพ้และนอนอยู่ตรงนั้น ฉันรู้สึกไม่สบายมาก ฉันคว้าถังขยะแล้วอาเจียน ฉันอาเจียนและคุกเข่าลงบนพื้นและขอร้อง ฉันขอร้องให้เขาไปส่งฉันที่บ้าน ฉันบอกว่าฉันคิดถึงแม่มาก ฉันร้องไห้และขอร้อง เขาบอกว่าเขาจะปล่อยฉันไปถ้าฉันยอมให้ถ่ายรูปเปลือย”
เธอไปหาตำรวจเพื่อแจ้งความเรื่องการข่มขืน แต่ชายคนดังกล่าวอ้างว่าพวกเขามีเพศสัมพันธ์โดยสมัครใจโดยใช้ภาพถ่ายเป็นหลักฐาน
ความช่วยเหลือจจากคนที่คาดไม่ถึง
นักข่าวคังพบเบาะแสที่บอกเป็นนัยว่า ทำไมคนกลุ่มนี้จึงอยู่เหนือกฎหมาย ข้อความบางข้อความบอกเป็นนัยว่า พวกเขาได้รับการคุ้มครองโดยตำรวจอาวุโส
คังเล่าว่า ในเวลานั้น เธอได้เปิดเผยข้อความในแชตลับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เธอพบอุปสรรคในการรายงานข่าว เนื่องจากองค์ประกอบบางอย่างขาดหายไป รวมถึงตัวตนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสคนหนึ่ง
แต่แล้วผู้ช่วยที่ไม่คาดคิดก็มาเยือน นั่นคือ “คู ฮารา” ศิลปินสาวผู้ล่วงลับ
“นั่นคือจุดสำคัญมาก ... คูฮาราปรากฏตัวขึ้น ฉันยังจำวันนั้นได้ เธอพูดว่า ‘คุณนักข่าว นี่ฮารานะ ฉันอยากช่วยจริง ๆ’” คังเล่า
นักข่าวหญิงเปิดเผยว่า คู ฮารา และชเว จงฮุน มีความสนิทสนามกันตั้งแต่เดบิวต์เข้าวงการ และได้ติดต่อกับซึงรีและจองในขณะนั้นด้วย คู ฮารา ตัดสินใจใช้มิตรภาพของเธอเพื่อสืบหารายละเอียดบางอย่างที่กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในรายงานข่าวของคัง
คังบอกว่า “ฮาราเคยเห็นพวกเขาพูดคุยกันทางโทรศัพท์มือถือมาก่อน และเธอก็พูดว่า ‘พวกเขามีบางอย่างแปลก ๆ อยู่ในนั้น’ ... ฉันบอกเธอว่า ‘ฉันต้องรู้เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นแต่ไม่มีทางรู้ได้เลย’ จากนั้นฮาราก็โทรหาชเวและถามคำถามนั้นให้ฉัน”
ชื่อที่ได้มาคือ ยุน คยูคึน เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงซึ่งเคยทำงานที่ทำเนียบประธานาธิบดีด้วย คังบอกว่า “ฮาราช่วยให้ชเวยอมรับมัน ฮาราเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญมาก”
เธอคาดว่า ที่ คู ฮารา ให้ความช่วยเหลือนี้ เป็นเพราะศิลปินสาวเคยตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเพศเช่นกัน โดยเธอตกเป็นเหยื่อของโมลคาโดยอดีตแฟนหนุ่มช่างทำผมของเธอ เขาแบล็กเมลเธอ ด้วยการขู่ว่า จะปล่อยคลิปลับเพื่อทำให้เธอดับ
ด้วยหลักฐานสำคัญนี้เอง ทำให้ในท้ายที่สุด มีศิลปินชื่อดังจำนวนหนึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิด และต้องรับโทษจำคุก (ซึ่งปัจจุบันทุกคนออกมาแล้ว)
ขณะที่ตัวคลับเบิร์นนิงซันเองปิดทำการไปแล้ว และปัจจุบันเหลือแต่ซากหลังเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 2023
แต่ถึงแม้เธอจะนำความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมมาสู่แสงสว่าง คังกลับถูกคุกคามเช่นเดียวกับพัค จากคนที่ไม่พอใจการรายงานความจริงของเธอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของศิลปินดาราที่เกี่ยวข้องกับเบิร์นนิงซัน
กระนั้น คังยังคงหวังว่า สิ่งที่เธอและพัคเปิดเผยจะยังคงทำหน้าที่เป็นคำเตือนว่า “อุตสาหกรรมเคป็อปสามารถเน่าเฟะได้ขนาดไหน”
เธอบอกว่า “เราได้โยนก้อนกรวดก้อนเดียวลงในสระน้ำขนาดใหญ่ … มันสงบลงไปแล้วก็จริง แต่ฉันหวังว่ามันจะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คน เพื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เราจะสามารถเปิดเผยมันได้เร็วกว่านี้มาก”
คังระบุว่า ที่เธอยังคงเป็นนักข่าวบันเทิงจนถึงทุกวันนี้เพราะ “ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้เป็นเหมือนโลกย่อย ๆ ของสังคมของเรา เงินทอง อำนาจ ผู้หญิง เซ็กซ์ ... ยิ่งทำงานด้านนี้ ฉันยิ่งเห็นก้นบึ้ง ยิ่งเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสังคม”
เรียบเรียงจาก Burning Sun: Exposing the secret K-pop chat groups - BBC World Service Documentaries
รู้จัก "Golden Boy" ประติมากรรมสำริด ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ขอมโบราณ!
รวม 5 จุดน้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล คืนนี้ถึงรุ่งเช้า!
ไขคำตอบ! ทำไมบางครั้งไอโฟนชาร์จสุดหยุดอยู่ที่ 80%
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
