ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไต้หวัน ทวีความตึงเครียดสูงสุดอีกครั้ง หลังเมื่อวานนี้จีนได้เปิดฉากซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน โดยการซ้อมรบของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน หรือ PLA รอบไต้หวันเป็นวันที่ 2 จีนบอกว่าเป็นการลงโทษอย่างรุนแรงต่อการกระทำแบ่งแยกดินแดนของกองกำลังเอกราชไต้หวัน
ซึ่งในที่นี่หมายถึงประธานาธิบดี “ไล่ ชิงเต๋อ” และสุนทรพจน์รับตำแหน่งผู้นำของเขาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่ขอให้จีนหยุดคุกคามไต้หวันทั้งทางการเมืองและการทหาร
และย้ำว่าสาธารณรัฐจีน หรือชื่ออย่างเป็นทางการของไต้หวัน และสาธารณรับประชาชนชนจีนที่หมายถึงจีนแผ่นดินใหญ่ “ไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของกันและกัน” ซึ่งนี่ถือเป็นจุดยืนเดียวกับรัฐบาลไต้หวันชุดก่อนหน้าของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน
ซึ่งในแถลงการณ์ของกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของ PLA ระบุว่า การซ้อมรบที่ดำเนินอยู่ใน 2 ด้านของเกาะไต้หวัน เป็นไปเพื่อทดสอบขีดความสามารถในการร่วมยึดอำนาจ โจมตี และยึดครองพื้นที่สำคัญ
โดยในการซ้อมรบ 2 วันนี้ของ PLA ได้มีการนำกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังจรวดเข้าร่วมด้วย ปฏิบัติการนี้ถูกเรียกว่า Sword 2024A จากแผนที่จะเห็นได้ว่า ปฏิบัติการซ้อมรบของ PLA เกิดขึ้นทั้งในช่องแคบไต้หวัน น่านน้ำแคบๆ ที่แยกเกาะไต้หวันออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงในตอนเหนือ ใต้ และตะวันออกของไต้หวัน ตลอดจนรอบเกาะจินเหมิน เกาะมัตสึ เกาะอู๋ฉิว และตงหยิน ซึ่งเป็นพื้นที่ของไต้หวันส่วนที่ประชิดกับชายฝั่งของจีน และมีกองกำลังป้องกันของไต้หวันประจำการอยู่
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สยังได้รายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่อาวุโสของไต้หวันที่ระบุว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดของจีนหลายลำได้จำลองการโจมตีเรือต่างชาติที่อยู่ใกล้กับทางตะวันออกสุดของช่องแคบบาชิ ซึ่งเป็นช่องแคบที่คั่นระหว่างไต้หวันและฟิลิปปินส์ รวมถึงเป็นทางเข้าออกสู่ทะเลจีนใต้ โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันคนดังกล่าวชี้ว่า นี่เป็นการซ้อมยึดการควบคุมอย่างสมบูรณ์ในพื้นที่แถบตะวันตกของแนวห่วงโซ่ของเกาะชั้นที่ 1 ซึ่งหมายถึงพื้นที่ไล่ตั้งแต่ญี่ปุ่น ผ่านไต้หวัน ไปจนถึงฟิลิปปินส์ถึงเกาะบอร์เนียว ทั้งยังระบุว่ามีเรือยามฝั่งของจีนซ้อม “การคุกคาม” นอกจากชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันที่รวมถึงการจำลองการตรวจสอบเรือของพลเรือนด้วย
ทั้งนี้ หน่วยยามฝั่งจีนระบุในแถลงการณ์ว่า หน่วยงานของตัวเองได้ทำการฝึกซ้อม “การบังคับใช้กฎหมาย” ในน่านน้ำฝั่งตะวันออกของไต้หวันในวันนี้ โดยให้ความสำคัญไปที่การตรวจสอบ ระบุตัวตน การเตือนและการขับไล่
ขณะที่อาจารย์จากมหาวิทยาลัยกลาโหมแห่งชาติของจีนระบุว่า การซ้อมรบในน่านน้ำใกล้กับชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันเป็นไปเพื่อส่งสัญญาณไปยังผู้แบ่งแยกดินแดนในไต้หวันว่า จีนพร้อมปิดกั้นการหลบหนีของฝ่ายสนุบสนุนเอกราชไต้หวัน เพราะที่ผ่านมามักมีความเชื่อว่าพื้นที่ทางตะวันออกของเกาะ ซึ่งถัดออกไปคือญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการซ่อนตัวและหลบนีของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนหนุนเอกราช และยังเป็นช่องทางที่สหรัฐฯ และพันธมิตรอื่นๆ สามารถส่งการสนับสนุนเข้ามายังไต้หวันได้อีกด้วย ความเห็นนี้ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณไปยังนานาชาติว่า PLA จริงจังกับการซ้อมรบรอบนี้ และเป็นการย้ำกับประชาชนในจีนเองถึงความแข็งแกร่งของกอง PLA
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่อาจมองได้ว่าเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยา เมื่อกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของ PLA ได้เผยแพร่วิดีโอแอนิเมชั่นทางบัญชีวีแชทของหน่วยงานและทางสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนในวันนี้ โดยวิดีโอดังกล่าวจำลองการยิงขีปนาวุธโจมตีไต้หวันจากทางภาคพื้น อากาศ และทะเล ที่ทำให้กรุงไทเป เมืองเกาสง และฮัวเหลียน ลุกเป็นไฟ โดยที่ท้ายคลิปมีการขึ้นข้อความสีแดงระบุว่า “อาวุธร้ายแรงเพื่อดับการเป็นเอกราช”
การซ้อมรบใหญ่ของจีนเรียกเสียงประณามจากกระทรวงกลาโหมของไต้หวันที่ชี้ว่า เป็นการยั่วยุอย่างไม่มีเหตุผล โดยไต้หวันได้ส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ระบบป้องกันภัยทางอากาศเคลื่อนที่ และโดรนสอดแนมจับตาสถานการณ์การซ้อมรบของจีน
ขณะที่ประธานาธิบดี “ไล่ ชิงเต๋อ” ผู้นำคนใหม่ของไต้หวันที่เดินทางเยี่ยมค่ายทหารในเมืองเถาหยวนเมื่อวานนี้ประกาศให้สัญญาว่า เขาจะเดินหน้าปกป้องคุณค่าด้านเสรีภาพและประชาธิปไตยต่อไปในการเผชิญกับ “การคุกคามและความท้าทายจากภายนอก” ซึ่งก็ชัดเจนว่าหมายถึงจีน
ถ้อยแถลงล่าสุดนี้ของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่พูดถึงการคุกคามจาก “ภายนอก” ก็อาจมองได้ว่าเป็นอีกครั้งที่ผู้นำคนใหม่ของไต้หวันย้ำในอธิปไตยและจุดยืนชัดเจนที่ว่าไต้หวันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน หลังก่อนหน้านี้เขากล่าวถึงจุดยืนนี้ในสุนทรพจน์รับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่สร้างความไม่พอใจให้จีน จากการใช้คำว่า “จีน” เรียกจีนอย่างชัดเจน โดยรัฐบาลจีนบอกว่านี่เป็นการเผยให้เห็นความคิดที่แท้จริงของเขาว่าไต้หวันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน เป็น 2 ประเทศที่แยกขาดจากกัน และตอกย้ำมุมมองของรัฐบาลจีนว่า ไล่ ชิงเต๋อ มีอุดมการณ์ที่จีนเรียกว่าแบ่งแยกดินแดน
แม้สำหรับคนนอกแล้ว ประเด็นการใช้คำว่า “จีน” เรียกชื่อประเทศดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระเกินกว่าจะกลายเป็นความไม่พอใจจนถึงขั้นซ้อมรบใหญ่รอบไต้หวันอีกครั้ง แต่บีบีซีระบุว่า เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ทั้งรัฐบาลปักกิ่งและไทเปมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องการนิยามคำว่าจีนและไต้หวันเป็นส่วนของจีนหรือไม่ และแม้แต่อดีตประธานาธิบดี ‘ไช่ อิงเหวิน’ ผู้นำคนก่อนหน้าของไต้หวันจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP เช่นเดียวกับประธานาธิบดีไล่ พยายามระมัดระวังในการเอ่ยถึงจีนด้วยการใช้คำเช่น “อีกด้านของช่องแคบไต้หวัน” หรือ “ทางการปักกิ่งเป็นต้น”
นักวิชาการบางส่วนในไต้หวันเองก็มองว่าภาษาเป็นเรื่องสำคัญ และดูเหมือนว่าประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อจะได้ข้ามเส้นอันตรายนั้นไปแล้ว แต่บางส่วนก็มองว่าความเกลียดชังที่รัฐบาลปักกิ่งมีต่อไล่ ชิงเต๋อ ที่ครั้งหนึ่งเคยประกาศตัวว่าเป็น “ผู้ปฏิบัติงานเพื่อเอกราชไต้หวัน” นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง และประเด็นสุนทรพจน์ของไล่ ชิงเต๋อ ก็เป็นเพียงสิ่งที่จีนใช้อ้างความชอบธรรมเพื่อซ้อมรบข่มขู่ไต้หวันรอบล่าสุดเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกันว่า ไม่ว่าไล่ ชิงเต๋อ จะใช้ภาษาอย่างไร เรียกจีนว่าอะไร ก็ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการควบคุมไต้หวัน
ทั้งนี้ จีนมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองและรอวันกลับไปรวมชาติ แม้ไต้หวันมีระบบกฎหมายและรัฐบาลของตัวเอง รวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ไม่เคยปกครองไต้หวันด้วย โดยจีนไม่เคยปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ไต้หวันอยู่ใต้การปกครองของจีน
การขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของไล่ ชิงเต๋อ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนอธิปไตยและถูกตีตราจากรัฐบาลจีนว่าเป็น “ตัวสร้างปัญหา” และ “ผู้แบ่งแยกดินแดนที่อันตราย” แม้เขายืนยันว่าไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ของไต้หวัน ก็ทำให้มีการคาดการณ์ว่าความตึงเครียดของสถานการณ์แถบช่องแคบไต้หวันต่อจากนี้อีก 4 ปี ไม่น่าจะบรรเทาลง
ในขณะที่การซ้อมรบของจีนรอบไต้หวันถูกจับตาว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์แถบช่องแคบไต้หวันยิ่งทวีความตึงเครียด แต่ดูเหมือนว่าสำหรับชาวไต้หวันแล้วมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ต่อสถานการณ์ โดยมีทั้งส่วนที่กังวลและคนที่มองว่า การข่มขู่ของจีนกลายเป็นเรื่องที่พวกเขาเคยชินไปแล้ว
เมื่อวานนี้หลังจีนประกาศซ้อมรบรอบไต้หวัน ก็มีความเห็นจากประชาชนบนเกาะจินเหมิน พื้นที่ของไต้หวันที่อยู่ติดกับแผ่นดินใหญ่ของจีน ผู้คนที่นี่บอกว่าไม่แปลกใจอะไรกับการซ้อมรบรอบล่าสุดนี้ของจีน เพราะที่ผ่านมาจีนก็ซ้อมรบอยู่เป็นปกติ ถ้าจีนอยากจะทำอะไรสักอย่างก็คงทำไปนานแล้ว แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยืนยันว่าไม่อยากเห็นสงครามเกิดขึ้น
แต่ก็มีชาวไต้หวันอีกส่วนที่บอกว่า กังวลว่าการบุกไต้หวันจะเกิดขึ้นจริง โดยที่เมืองเกาสง บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของไต้หวัน ก็มีประชาชนที่บอกว่ากังวลต่อการซ้อมรบของจีน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ นักการทูตในภูมิภาคและเจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันตั้งข้อสังเกตว่าจนถึงขณะนี้ขนาดของการซ้อมรบของจีนรอบนี้ยังถือว่าเล็กกว่ากว่าซ้อมรบคล้ายๆ กันเมื่อปี 2022 ที่จีนเปิดฉากซ้อมรบรอบไต้หวันตอบโต้การเยือนของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในเวลานั้น และยังดูเหมือนว่าการซ้อมรบรอบนี้ไม่เหนือไปจากความคาดหมายของคนในไต้หวันว่าจีนจะต้องหาทางข่มขู่เมื่อมีการขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของไล่ ชิงเต๋อ ที่มีจุดยืนขัดแย้งกับจีน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กังวลว่า การซ้อมรบรอบไต้หวันมีความเสี่ยงสูงที่จะนำไปสู่อุบัติเหตุหรือการคาดคำนวณผิดที่อาจนำไปสู่การเผชิญหน้า
ส่วนบทความของเดอะการ์เดี้ยนระบุว่า มีความกังวลมากขึ้นว่าจีนกำลังเพิ่มการใช้ “ยุทธศาสตร์แดนสีเทา” หรือการทำกิจกรรมคุกคามที่ทำให้เกิดความกลัวและเสียขวัญ แต่ไม่ถึงขั้นเปิดการโจมตีเต็มรูปแบบ ซึ่งนี่จะทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นสำหรับไต้หวันและฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการประเมินการเพื่อรับมือ