“ไบเดน” ใช้คำสั่งพิเศษจำกัดผู้ลี้ภัย ลดคนลักลอบเข้าเมือง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยประเด็นใหญ่ประเด็นหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้คือ การจัดการกับคลื่นผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนสหรัฐฯ และเม็กซิโก

ที่ผ่านมาพรรครีพับลิกันพยายามโจมตีพรรคเดโมแครตว่าไม่มีความสามารถในการสกัดผู้ลี้ภัยแต่ล่าสุดประธานาธิบดีไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ใช้คำสั่งพิเศษเพื่อจำกัดผู้ลี้ภัยแล้ว หลายฝ่ายมองว่านี่เป็นหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนอเมริกัน ก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีก 5 เดือนข้างหน้า

ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าวโดยระบุว่า ตัวเขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร หรือ executive order เพื่อจำกัดจำนวนของการรับผู้อพยพที่จะเข้ามาในสหรัฐฯ แบบไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คอนเทนต์แนะนำ
สหรัฐฯ เผชิญความท้าทายจากวิกฤตผู้ลี้ภัยในเท็กซัส
“ไบเดน” ไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธสหรัฐฯ ถล่มแผ่นดินรัสเซีย

ผู้อพยพ รายการรอบโลก DAILY
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

คำสั่งฝ่ายบริหารนี้จะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ในการระงับสิทธิของผู้อพยพบริเวณชายแดนเม็กซิโก ที่ต้องการขอเข้ามายังสหรัฐฯ ในกรณีที่มีจำนวนผู้ขอเข้าเมืองเกินกว่า 2,500 คนต่อวัน  และชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกจะกลับมาเปิดอีกครั้ง เมื่อจำนวนค่าเฉลี่ยของผู้อพยพลดลงเหลือต่ำกว่า 1,500 คนต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์

ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า คำสั่งฝ่ายบริหารนี้ จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่นนอกจากนี้ คำสั่งฝ่ายบริหารยังมีมาตรการที่เข้มงวดกับกลุ่มผู้อพยพที่ถูกจับได้ว่าข้ามแดนแบบผิดกฎหมายด้วย

หากผู้อพยพคนใดถูกจับได้ว่าลักลอบข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเนรเทศบุคคลดังกล่าวออกนอกสหรัฐฯ ทันที หรืออาจส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง ตลอดจนอาจถูกปฏิเสธสถานะผู้ลี้ภัยในอนาคต

แม้ข้อจำกัดจะมากขึ้น แต่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ระบุว่า คำสั่งพิเศษนี้มีข้อยกเว้นสำหรับเด็กที่เดินทางโดยลำพัง ผู้ที่ต้องเผชิญอันตรายทางการแพทย์หรือความปลอดภัยขั้นร้ายแรง ตลอดจนผู้ที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีไบเดนในรอบนี้ กลายเป็นที่จับตาและเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี และก่อนที่โจ ไบเดนจะต้องดีเบตกับโดนัลด์ ทรัมป์ครั้งแรกในช่วงปลายเดือนนี้

โดยจุดอ่อนที่ผู้นำสหรัฐฯ จะถูกโจมตีจากพรรครีพับลิกัน อาจหนีไม่พ้นเรื่องการปิดชายแดนเพื่อป้องกันคลื่นผู้อพยพ อย่างไรก็ดี ในระหว่างการแถลงข่าว ผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้พูดถึงที่มาที่ไปและสาเหตุของการต้องออกคำสั่งฝ่ายบริหารเช่นนี้ไว้

ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า การที่วุฒิสมาชิกของรีพับลิกัน ขัดขวางร่างกฎหมายชายแดนที่สองพรรคในสภาล่างตกลงร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ฝ่ายบริหารไม่มีตัวเลือกอื่น นอกจากการประกาศใช้คำสั่งฝ่ายบริหารที่มีผลบังคับใช้ทันที

หลายฝ่ายมองว่า การปัดตกร่างมาตรการเกี่ยวกับชายแดนของวุฒิสมาชิกรีพับริกัน เป็นหนึ่งในเกมการเมืองก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะเปิดฉากในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากถ้ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนจากพรรคเดโมแครต สามารถผ่านกฎหมายเพื่อสกัดผู้อพยพได้จริง ความดีความชอบและคะแนนเสียงก็จะถูกเทไปยังฝั่งประธานาธิบดีไบเดนและพรรคเดโมแครต แทนที่จะเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ที่ชูนโยบายต่อต้านผู้อพยพบริเวณชายแดนนี้อย่างชัดเจนมาตลอด

สอดคล้องกับผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่ชี้ว่า คะแนนความนิยมของทรัมป์มีมากกว่าประธานาธิบดีไบเดนถึงร้อยละ 17 เมื่อพูดถึงนโยบายการย้ายถิ่นฐานและผู้อพยพ

ดังนั้น การประกาศใช้คำสั่งฝ่ายบริหารของไบเดน จึงถือเป็นการใช้ช่องของระบบบริหารในการควบคุมจำนวนผู้อพยพบริเวณชายแดน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน  ตลอดจนอาจเป็นการปิดช่องว่างเพื่อไม่ให้พรรครีพับริกันโจมตีในระหว่างการหาเสียงและการดีเบตตามเวทีต่างๆ ที่จะมีขึ้นหลังจากนี้

ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายมองว่า คำสั่งฝ่ายบริหารของไบเดนคล้ายคลึงกับนโยบายของทรัมป์ในสมัยที่เป็นประธานาธิบดี และคล้ายคลึงกับตัวบทกฎหมาย 212(f) ที่ทรัมป์ใช้เพื่อสกัดผู้คนจากประเทศมุสลิม ไม่ให้เข้ามาลี้ภัยยังแผ่นดินสหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ดี การประกาศใช้คำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจำกัดจำนวนผู้อพยพ ก็ได้สร้างความผิดหวังให้กับภาคประชาสังคมที่สนับสนุนประธานาธิบดีไบเดน รวมถึงสส.ในพรรคเดโมแครตเองด้วย

ลี เกเลิร์นต์ ทนายความของสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน ซึ่งเป็นองค์กรที่ฟ้องร้องทรัมป์สำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังทรัมป์พยายามออกคำสั่งบริหารในลักษณะนี้เพื่อควบคุมการเข้าประเทศของผู้ลี้ภัยมุสลิม ได้ระบุว่า  ทางหน่วยงานจะฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากคำสั่งฝ่ายบริหารขัดต่อพันธกรณีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อพระราชบัญญัติผู้ลี้ภัยปี 1980 ซึ่งบัญญัติให้สหรัฐฯ ตรวจสอบผู้ลี้ภัยตามกระบวนการโดยไม่เลือกปฏิบัติ

นอกจากภาคประชาสังคมแล้ว ทางฝั่งสส.ของพรรคเดโมแครตหลายคน ก็ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งฝ่ายบริหารของผู้นำสหรัฐฯ อิลฮาน โอมาร์  สส.สังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐมินนิโซตา ระบุว่า สิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำ เป็นการทรยศต่อหลักการและเป็นการทำลายมรดกของสหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นสถานที่ที่ให้ผู้ถูกกดขี่ได้พึ่งพิง

 นอกจากประเด็นการทางกฎหมายระหว่างคำสั่งฝ่ายบริหารกับพันธกรณีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อพระราชบัญญัติผู้ลี้ภัยปี 1980 และค่านิยมในการโอบรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อีกประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายกังวลคือ อันตรายที่จะเกิดกับกลุ่มผู้ลี้ภัย หากพวกเขาไม่สามารถเข้าไปในสหรัฐฯ ได้  เอ็นริเก ลูเซโร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการผู้อพยพในเมืองติฮัวนา ประเทศเม็กซิโก เตือนว่า มาตรการใหม่ของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อที่พักพิงของผู้อพยพ เนื่องจากผู้คนจำนวนมากจะติดอยู่ที่ชายแดนในระหว่างที่ต้องรอการพิจารณาเข้าแดนหรือรอเพื่อถูกส่งกลับประเทศ

ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการผู้อพยพของเม็กซิโกยังเชื่อว่า ความสิ้นหวังอันเกิดจากการถูกจำกัดไม่ให้ข้ามแดน จะทำให้ผู้อพยพหาทางข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย เช่น การลักลอบเข้าตามช่องทางธรรมชาติ หรือ การหลบซ่อนในรถบรรทุก

แต่สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ หลายคนอาจไม่มีที่ไปจนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน อาศัยอยู่ตามชายแดนและตกเป็นเหยื่อของการฆาตรกรรม หรือตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์  เพราะผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ยอมสละทุกอย่างที่มี เพื่อหวังจะได้เข้าไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังได้ตั้งคำถามว่าจะสามารถควบคุมจำนวนผู้อพยพและผู้ลักลอบเข้าเมืองได้มากน้อยเพียงใด เพราะในคำสั่งฝ่ายบริหารได้ระบุไว้ว่าชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโกจะกลับมาเปิดอีกครั้ง เมื่อจำนวนค่าเฉลี่ยของผู้อพยพที่ถูกจับกุมลดลงเหลือต่ำกว่า 1,500 คนต่อวัน แต่หากดูจากสถิติที่ผ่านมา อัตราการผ่านเข้าแดนสหรัฐฯ ตามชายแดนยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา การข้ามแดนเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 4,300 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมาก  และการจะลดจำนวนผู้อพยพให้ลดลงเหลือต่ำกว่า 1,500 คนต่อวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกันเป็นเรื่องที่ยากมาก

โดยครั้งสุดท้ายที่อัตราการข้ามแดนลดลงไปถึงระดับดังกล่าวคือ ช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ซึ่งเป็นเดือนแรกของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในสหรัฐฯ  และเป็นช่วงที่คนทุกพื้นที่ทั่วโลกถูกจำกัดการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ คำถามสำคัญในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรการของคำสั่งฝ่ายบริหารยังคงคลุมเครือ รวมถึงวิธีที่ฝ่ายบริหารจะส่งผู้อพยพไปยังประเทศที่อยู่ห่างไกล และไม่ให้ความร่วมมืออย่างรวดเร็วจะเป็นไปได้อย่างไร

ตลอดจนเม็กซิโกจะยอมรับผู้อพยพที่ไม่ใช่ชาวเม็กซิกันได้ในจำนวนเท่าใดหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศจำกัดจำนวนผู้อพยพ

โปรแกรมบอลยูโร 2024 ทุกคู่ เวลาแข่งขัน EURO 2024

ไทยจ่อเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” มิ.ย.-ส.ค.นี้ หลายปัจจัยทำฝนตกเพิ่มขึ้น

6 มิ.ย.67! กฟน.ประกาศ “ดับไฟ” 6 พื้นที่ กทม.-สมุทรปราการ

Bottom-PL-24 Bottom-PL-24

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ