ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่ ซาชี ฮาเน็กบี ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลและนาย รอน เดอร์เมอร์รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์ได้เข้าพบกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯอีกหลายคนเพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในเลบานอน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
โดยสื่อมวลชนสหรัฐฯ รายงานว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันสัญญาว่าอิสราเอลจะได้รับความช่วยเหลือทางการทหารอย่างเต็มที่ หากการสู้รบกับกลุ่มฮิซบอลลเลาะห์เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
แต่ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่ส่งกำลังทหารร่วมทำสงครามโดยตรงอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้แสดงความกังวลว่าการเปิดฉากทำสงครามกับกลุ่มฮิซบอลลเลาะห์ ซึ่งมีศักยภาพด้านอาวุธดีกว่ากลุ่มฮามาสในฉนวนอย่างชัดเจน อาจส่งผลให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลต้องทำงานหนักเกินไป
โดยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ ทำให้คูเวตกลายเป็นประเทศแรกที่เตือนพลเมืองของตนให้เดินทางออกจากเลบานอนทันทีและงดเว้นเการเดินทางไปประเทศดังกล่าว
ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องประชาคมโลกอย่าปล่อยให้เลบานอนกลายเป็น "กาซา 2" โดยเตือนว่าการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่หายนะที่ร้ายแรงเกินจินตนาการและไม่จำกัดอยู่ที่พรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ
ส่วนสถานการณ์สู้รบในฉนวนกาซา กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ได้ทำการโจมตีทางอากาศเมืองกาซาซิตี 2 ครั้งในวันที่ 22 มิ.ย. โดยมีเป้าหมายคือโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮามาส ซึ่งกองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่ามีสมาชิกระดับแกนนำของกลุ่ม 1 คน ถูกสังหารจากปฏิบัติการนี้
ขณะที่กลุ่มฮามาสอ้างว่าปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน
นอกจากนี้ยังปรากฎคลิปวิดีโอชายคนหนึ่งถูกมัดไว้กับกระโปรงหน้ารถจี๊ปของทหารอิสราเอล โดยกองทัพอิสราเอลยอมรับว่าภาพที่ถูกเผยแพร่เป็นเหตุการณ์จริง แต่ระบุว่าว่าชายคนดังกล่าวเป็นผู้ต้องสงสงสัยก่อการร้าย
อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลยืนยันว่าได้เปิดการสืบสวนเหตุกรณ์นี้แล้ว เนื่องจากเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์การ์พสงคราม
ขณะเดียวกัน โจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนฝ่ายนโยบายความมั่นคงและกิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ออกมาประณามเหตุโจมตีสำนักงานของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ในย่าน อัล-มาวาซี ทางตอนใต้ของกาซา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 มิ.ย.) จนทำให้ผู้ที่มาอาศัยหลบภัยเสียชีวิตไปถึง 22 คน
บอร์เรลล์เรียกร้องให้มีการสืบสวนอิสระเพื่อหาตัวผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้มาลงโทษ โดยไม่มีเจาะจงไปยังฝ่ายใด
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นโดยกองทัพอิสราเอลพบว่า ไม่มีการโจมตีโดยตรงเข้าใส่สำนักงานกาชาด แต่การสืบสวนเหตุการณ์นี้จะยังเดินหน้าต่อไป