เมื่อวันที่ 9 ก.ค. คลังเก็บน้ำมันของเมือง "คาลาช-ออน-เดอะ-ดอน" (Kalach-on-the-Don') ในภูมิภาคโวลโกกราด (Volgograd) ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย เกิดไฟลุกท่วมอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุระเบิดที่คาดว่าเป็นผลมาจากกการโจมตีด้วยโดรน
อีกจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เช่นกันคือสถานีไฟฟ้าย่อยในเมืองโฟรโลโว (Frolovo) ในภูมิภาคเดียวกัน และสถานีไฟฟ้าย่อยอีกแห่งในภูมิภาครอสตอฟ
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดโดรนได้ 38 ลำ จำนวนนี้ 21 ลำพบในภูมิภาครอสตอฟและภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้ชายแดนยูเครน แต่ไม่มีการพูดถึงการโจมตีในภูมิภาคโวลโกกราด
โดยเหตุเพลิงไหม้เหล่านี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโรงพยาบาลเด็กในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลแหล่งข่าวด้านความมั่นคงที่ระบุว่า กองทัพยูเครนและหน่วยงานด้านข่าวกรองได้ส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายจุดในรัสเซียทั้งโรงกลั่นน้ำมัน สถานีไฟฟ้าย่อย และสนามบินทหาร ในภูมิภาคที่อยู่ตามแนวพรมแดน รัสเซีย-ยูเครน
ขณะที่ผู้นำชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตเเลนติกเหนือหรือนาโต ได้เริ่มต้นการประชุมสุดยอดที่กรุงวอชิงตัน ของสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นหลักของการหารือยังคงเป็นการให้ความช่วยเหลือต่อยูเครนในการต่อสู้กกับรัสเซีย
โดยเป็นที่คาดหมายว่าผู้นำชาติสมาชิกนาโตจะร่วมกันสร้างแนวทางที่ประสานความช่วยเหลือยูเครนจากที่เคยเป็นรายประเทศ ให้เป็นโครงการร่วมกันของกลุ่มนาโต้ โดยอาจเกิดการให้คำมั่นสัญญาใหม่ ๆ ที่จะส่งกระสุน รวมถึงยุทโธปกรณ์ป้องกันทางอากาศ
ส่วน ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วยเปิดเผยว่าจะหยิบยกประเด็นการเพิ่มความช่วยเหลือด้านระบบสกัดขีปนาวุธขึ้นมาหารือกับผู้นำชาติสมาชิกนาโต ซึ่ง ผู้นำยูเครนหวังว่าชาติพันธมิตรตะวันตกจะมีความกล้าตัดสินใจในเรื่องนี้มากขึ้น
วิเคราะห์บอล ! ยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ พบ อังกฤษ 10 ก.ค.67
Microsoft ในจีน สั่งพนักงานห้ามใช้มือถือ Android เริ่ม ก.ย. นี้
"รหัสเรียกคืนข้อมูล LINE" คืออะไร? ตั้งค่า-ใช้งานอย่างไรบ้าง?