"โดนัลด์ ทรัมป์" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง ร่วมกับวุฒิสมาชิก "เจ.ดี.แวนซ์" คู่หูผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันในเมืองแกรนด์ แรพิด รัฐมิชิแกน เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการหาเสียงร่วมกันครั้งแรกของทั้งคู่หลังคว้าตั๋วเป็นตัวแทนพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
นอกจากนี้ ยังเป็นการหาเสียงในที่สาธารณะครั้งแรกของ "ทรัมป์" นับตั้งแต่เกิดเหตุ "โทมัส แมทธิว ครุกส์" มือปืนวัย 20 ปี ที่พยายามก่อเหตุลอบสังหาร "ทรัมป์" ระหว่างหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.
และนับเป็นการหาเสียงครั้งแรก นับตั้งแต่ "ทรัมป์" รับตำแหน่งตัวเเทนพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน (RNC) เมื่อวันที่ 18 ก.ค.
"ทรัมป์" กล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุน ปฏิเสธข้อกล่าวหามีส่วนร่วมใน "โครงการ 2025" ความริเริ่มของ "มูลนิธิเฮอริเทจ" กลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีเป้าหมายส่งเสริมการรวบรวมข้อเสนอเชิงนโยบายของฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายขวา เพื่อปรับโฉมรัฐบาลกลางและรวบรวมอำนาจการบริหาร หาก “ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้ง
โดย “ทรัมป์” ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ผิด และเขาเป็นผู้รับกระสุนเพื่อประชาธิปไตย ตอบโต้นักวิจารณ์ที่เรียกเขาว่าเป็นภัยคุกคาม พร้อมเปิดเผยระหว่างการปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจที่มีต่อจีนในสมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเขียนข้อความที่งดงามถึงตอนเองเมื่อวันก่อน หลังจากทราบข่าวความพยายามลอบสังหาร พร้อมเสริมว่า ตนเองเข้ากันได้ดีมากกับประธานาธิบดีสีด้วย