คิมเบอร์ลี ชีเทิล ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ (USSS) ซึ่งมีหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ ได้ยื่นหนังลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยชี้แจงว่า ต้องการรับผิดชอบความล้มเหลวในการอารักขาอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ถูกลอบยิงระหว่างการปราศรัยบนเวทีหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.
การประกาศลาออกของชีเทิลเกิดขึ้นหลังจากเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับดูแลและตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาทั้งพรรครีพับลิกันกับเดโมแครตต่างเรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง
โดยสมาชิกรัฐสภาไม่พอใจที่เธอเลี่ยงตอบคำถามสำคัญหลายข้อ และมองว่าปราศจากความโปร่งใส
ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งชีเทิลเมื่อปี 2022 ออกแถลงการณ์ขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ของเธอในหน่วยงานนี้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และพร้อมจะแต่งตั้งผู้อำนวยการคนใหม่ในเร็ววัน
สำหรับชีเทิล ปัจจุบันมีอายุ 54 ปี ทำงานกับหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ มานานถึง 27 ปี โดยผลงานสำคัญของเธอคือมีการส่วนร่วมในการอพยพ ดิ๊ก เชนีย์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2001 ออกจากทำเนียบขาวก่อนที่เธอจะกลายเป็นหัวหน้าทีมอารักขาไบเดนสมัยที่ยังดำรงตำแแหน่งรองประธานาธิบดีในยุครัฐบาล บารัก โอบามา
ส่วนความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์และบริษัทวิจัยการตลาดอิปซอสได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่พบว่า รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส มีคะแนนนิยมนำหน้าอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน อยู่ 44% ต่อ 42%
ขณะที่ทีมหาเสียงของแฮร์ริสเปิดเผยว่า เธอได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มตัวแทนพรรคเดโมแครตเพียงพอจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคแล้ว
เงื่อนไขทั้งหมด ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ประกาศเปิดลงทะเบียนเริ่ม 1 ส.ค.2567
เช็กโปรแกรมกีฬาโอลิมปิก 2024 เวลาแข่งขัน Olympic 2024 วันที่ 24 ก.ค.67