ออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เผชิญปัญหาประชาชนถูกหลอกจากแก๊งมิจฉาชีพ และล่าสุด สตีเฟน โจนส์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า กฎหมายของประเทศตอนนี้ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวงให้ได้เงินคืนน้อยเกินไป ซึ่งในหลายกรณีผู้คนไม่ได้รับการชดเชยเนื่องจากถูกหลอกให้โอนเงินผ่านการทำธุรกรรมที่ได้รับอนุญาต ซึ่งหมายความว่าไม่ได้ขัดกับกฎหมายในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลออสเตรเลีย ได้จัดตั้งศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงแห่งชาติ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2023 ที่ผ่านมา เพื่อปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพ โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย กล่าวว่าการปราบปรามประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ว่าธนาคาร บริษัทโทรคมนาคม และแพลตฟอร์มดิจิทัล จะต้องดำเนินมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้นอีก
ภายใต้มาตรการปราบปรามระยะที่สองนั้น กลุ่มธนาคาร แพลตฟอร์มดิจิทัลและบริษัทโทรคมนาคมจะเผชิญกับบทลงโทษหากไม่ดำเนินการตรวจสอบในเชิงป้องกันตามกฎหมายใหม่ที่จะป้องกันการสูญเสียจากการหลอกลวง
ข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงแห่งชาติที่เผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนเมษายนระบุว่าชาวออสเตรเลียสูญเงินจากการถูกหลอกลวงรวมเป็นเงิน 2,740 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียหรือราว 6.35 หมื่นล้านบาท ในปี 2023 ลดลง 13.1% จากปี 2022 ที่ผ่านมา
โดยผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มอายุเดียวที่สูญเงินจากการถูกหลอกลวงในปี 2023 มากกว่าปี 2022
ทั้งนี้ การหลอกให้ลงทุนสร้างมูลค่าความเสียหายมากที่สุด คิดเป็น 47.4% ของการสูญเงินจากการหลอกลวงทั้งหมด รองลงมาคือการหลอกลวงที่โดนควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล และการหลอกให้หลงรัก
Apple UK ลบคลิปแล้ว! ปมโฆษณาดรามาประเทศไทย
ผ้าคลุมรถกันความร้อน และ 4 ไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูสวยใหม่ตลอดเวลา