หลังการประกาศวันเจรจาหยุดยิงที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ แกนนำกลุ่มฮามาส ได้ออกมาปฏิเสธการเข้าร่วมการเจรจาดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ อียิปต์ และกาตาร์ ซึ่งเป็นตัวกลางในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงย้อนกลับไปพิจารณาข้อเสนอหยุดยิงที่กลุ่มฮามาสเสนอไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ แกนนำกลุ่มฮามาส ยังแสดงให้เห็นว่าเงื่อนไขที่เสนอเมื่อเดือน ก.ค. สามารถนำไปใช้ได้จริง แทนที่จะจัดการพูดคุยอีกหลายรอบ หรือเสนอเงื่อนไขใหม่ ๆ ซึ่งเปิดทางให้อิสราเอลโจมตีกาซาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนพูดคุยของอิยิปต์และกาตาร์ ได้แจ้งต่อรัฐบาลอิสราเอลว่า ยาห์ยา ซินวา ผู้นำฝ่ายการเมืองกลุ่มฮามาสคนใหม่ ต้องการทำข้อตกลงหยุดยิง แต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลยังไม่แสดงท่าทีตอบรับที่ชัดเจน
โดยอุปสรรคสำคัญยังคงเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีจากกลุ่มพรรคขวาจัดที่คัดค้านข้อเสนอให้พักการสู้รบเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกัน
ด้านพลเรือตรี ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่า กองทัพและหน่วยความมั่นคงอิสราเอลยังคงติดตามประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีที่มั่นทางใต้ของเลบานอน
โดยพลเรือตรีฮาการี ย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีปการปรับเปลี่ยนคำแนะนำต่อพลเรือน แต่กำลังพลในสังกัด IDF ได้เตรียมความพร้อมในระดับสูง
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐออกแถลงการณ์ ว่า พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งส่งเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี "ยูเอสเอส จอเจียร์" เข้าไปประจำการในภูมิภาคตะวันออกกลาง
โดยก่อนหน้านี้ เรือดำน้ำลำดังกล่าว อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่แถลงการครั้งนี้นับเป็นการประกาศต่อสาธารณะแบบที่ไม่พบเห็นบ่อยนักเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำกองทัพสหรัฐฯ
ที่มา: Firstpost