เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดในเอเชียและรุนแรงเป็นอันดับ 2 ของโลกในปีนี้ เข้าพัดถล่มเกาะไหหลำของจีน ทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก จนไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ส่งผลให้เกาะ “ฮาวายของจีน” แห่งนี้กลายเป็นอัมพาต
พายุไต้ฝุ่นยางิมีความเร็วลมสูงสุด 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใกล้ศูนย์กลางของพายุ พัดถล่มเมืองเหวินชางในไหหลำ ซึ่งหลังจากพัดถล่มได้เพียงชั่วโมงเศษ ไหหลำก็เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อครัวเรือนกว่า 830,000 หลังคาเรือน
หน่วยงานจัดการไฟฟ้าประจำมณฑลได้จัดตั้งทีมฉุกเฉินจำนวน 7,000 คน เพื่อเริ่มดำเนินการซ่อมแซมทันทีที่สถานการณ์เอื้ออำนวย ทำให้ ณ คือวันที่ 6 ก.ย. สามารถกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับครัวเรือนได้แล้ว 260,000 หลังคาเรือน
ทางการจีนได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินและเรือข้ามฟาก รวมถึงปิดกิจการต่าง ๆ บนเกาะ และเบตือนประชากรกว่า 10 ล้านคนไม่ให้ออกไปข้างนอกเคหสถานเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในไหหลำ
ไต้ฝุ่นลูกนี้ทำให้โรงเรียน ธุรกิจ และเครือข่ายคมนาคมในฮ่องกง มาเก๊า และมณฑลกวางตุ้ง รวมถึงสนามบินในเวียดนาม พากันประกาศปิดให้บริการชั่วคราวในช่วงสุดสัปดาห์นี้
เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ย. พายุไต้ฝุ่นยางิยังได้พัดผ่านช่องแคบเฉียงโจวทางตอนเหนือของไหหลำ และพัดขึ้นฝั่งเป็นครั้งที่สองในกวางตุ้ง โดยยังคงมีลมแรงเกิน 200 กม./ชม.
ในกวางตุ้ง ประชาชนมากกว่า 574,500 คนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมากกว่า 2 ใน 3 อพยพมาจากเมืองจ้านเจียง
พายุยางิเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งในไหหลำในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เมื่อครั้งไต้ฝุ่นรามสูรถล่มในปี 2014 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 88 รายในไหหลำ กวางตุ้ง กวางสี และยูนนาน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 44,000 ล้านหยวน
เรียบเรียงจาก Reuters