สำนักข่าว CNN รายงานว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อโซเชียลมีเดียที่สนับสนุนกองทัพยูเครนได้เผยแพร่ภาพของการโจมตีที่มั่นทหารรัสเซียในพื้นที่ป่า ด้วยการใช้โดรนโปรยวัตถุที่มีลักษณะเหมือนเปลวเพลิงลงสู่พื้นเบื้องล่าง
วัตถุที่โดรนของกองทัพยูเครนนำมาติดตั้งเป็นอาวุธคือ "เทอร์ไมต์" (Thermite) ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นการผสมกันระหว่างผงอะลูมิเนียม และแร่สนิมเหล็ก (Iron Oxide) โดยเมื่อเกิดการสันดาป หรือเผาไหม้ จะมีความร้อนสูงถึง 2,200 องศาเซลเซียส
จึงสามารถเผาผลาญวัสดุที่เป็นโลหะ หรือต้นไม้ได้ในระยะเวลาไม่กี่วินาที และสามารถทำให้มนุษย์เสียชีวิตหรือพิการได้ทันที
โดยกองพันยานเกราะยูเครน ระบุว่าการใช้โดรนเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเป็นอีกวิธีการที่สร้างความเสียหายให้กับฝ่ายรัสเซียได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านการทหารให้ความเห็นว่าการใช้โดรนโปรยวัตถุความร้อนสูงเช่นนี้จะให้ผลลัพธ์ในเชิงจิตวิทยามากกว่าผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ขณะที่ศักยภาพในด้านนี้ของยูเครนยังมีจำกัด ทำให้วิธีการนีั้ยังไม่สามารถใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการสู้รบกับรัสเซียได้
ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่ากองทัพได้ยึดเมืองโนโวโรดิฟกา (Novohrodivka) ศูนย์กลางคมนาคมทางบกของกองทัพยูเครนในพื้นที่ ซึ่งมีประชากรราว 14,000 คนก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.ปี 2022 โดยเมืองแห่งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองโปคอรฟสก์
ขณะที่กองทัพยูเครน เผยในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ว่า สถานการณ์ที่เมืองโปครอฟสก์ยังคง“ตึงเครียด” และ มีการต่อสู้ที่ดุเดือด”
ปัจจุบัน กองทัพรัสเซีย เข้าควบคุมพื้นที่ราว 1 ใน 5 ของยูเครน นับตั้งแต่ส่งทหารเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 และรุกคืบพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ในความพยายามยึดแคว้นดอนบาสทั้งหมดให้จงได้ ซึ่งตอนนี้รัสเซียครองพื้นที่ 80% ของแคว้นดังกล่าวแล้ว
ฤกษ์ดี 9 เดือน 9 ย้าย "ปลามังกรทอง"ลุงป้อม ออกจากทำเนียบ
พายุ "ยางิ" สิ้นฤทธิ์แล้ว พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 10-18 ก.ย.ฝนตกหนักบางแห่ง