เมื่อวันที่ 18 ต.ค. หน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) ได้ออกมายืนยันว่า เกาหลีเหนือตัดสินใจส่งทหารประมาณ 10,000 นายไปสนับสนุนรัสเซียในสงครามกับยูเครนจริงตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ และได้เริ่มส่งกำลังทหารไปแล้ว
การยืนยันของ NIS เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอก-ยอล เรียกประชุมฉุกเฉินด้านความมั่นคง โดยหลังการประชุม NIS กล่าวว่า ยืนยันพบ “จุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมโดยตรงของเกาหลีเหนือ” ในสงครามยูเครน
NIS ระบุว่า มีข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที่ระบุว่า ทหารจากเกาหลีเหนือได้เคลื่อนพลไปรัสเซียโดยการขึ้นเรือขนส่งของกองทัพเรือรัสเซีย และยืนยันได้ว่า เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนย้ายกองกำลังพิเศษของตนไปยังรัสเซียตั้งแต่วันที่ 8-13 ต.ค. ที่ผ่านมา
ตามข้อมูลของ NIS ในการเคลื่อนย้ายกำลังพล “เฟสแรก” มีทหารเกาหลีเหนือประมาณ 1,500 นายเดินทางไปรัสเซีย โดยใช้เรือยกพลขึ้นบกสะเทินน้ำสะเทินบก 4 ลำและเรือคุ้มกัน 3 ลำที่เป็นของรัสเซีย
กองกำลังเหล่านี้ถูกเคลื่อนย้ายจากพื้นที่ใกล้เมืองชองจิน ฮัมฮุง และมูซูดันของเกาหลีเหนือไปยังวลาดิวอสต็อกทางตะวันออกของรัสเซีย
NIS คาดว่าการขนย้ายกำลังพลเฟสที่สองจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าเกาหลีเหนือจะส่งกองกำลังไปรัสเซียรวมทั้งหมด 12,000 นาย ซึ่งรวมถึงกองกำลังจากหน่วยทหารชั้นยอดของประเทศ เพื่อไปทำสงครามในยูเครน
กองกำลังเกาหลีเหนือที่ส่งไปรัสเซียได้ประจำการอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกไกล รวมถึงวลาดิวอสต็อก อุสซูริสค์ คาบารอฟสก์ และบลาโกเวชเชนสก์
ตามรายงานของ NIS พวกเขาได้รับเครื่องแบบทหารและอาวุธของรัสเซียด้วย นอกจากนี้ ยังมีการปลอมแปลงเอกสารระบุตัวตนซึ่งปลอมตัวเป็นคนในพื้นที่ เพื่อปกปิดการมีส่วนร่วมของพวกเขา โดยให้พวกเขาดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังรัสเซีย
เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกปรับตัวแล้ว คาดว่าพวกเขาจะถูกส่งไปยังแนวหน้า ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ NIS
สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า ทางการเกาหลีใต้ติดตามการเคลื่อนพลของเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรก โดยประสานงานกับพันธมิตร และจะติดตามสถานการณ์ต่อไปและดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมด
การส่งกำลังของเกาหลีเหนือไปรัสเซียเป็นสัญญาณของการพัฒนาความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ นอกเหนือจากกรณีต้องสงสัยว่ามีการใช้อาวุธเกาหลีเหนือในสงครามยูเครน
รายงานของ NIS สอดคล้องกับที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค. โดยอ้างอิงรายงานข่าวกรองของยูเครนที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้ถูกส่งไปประจำการในดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองแล้ว โดยมีทหารอีก 10,000 นายที่เตรียมพร้อมเข้าร่วมการสู้รบ
เซเลนสกีชี้ว่ารัสเซียกำลังพึ่งพากองกำลังเกาหลีเหนือเพื่อชดเชยการสูญเสียทหารจำนวนมาก เนื่องจากชาวรัสเซียจำนวนมากพยายามหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร
หลังจากการประกาศของ NIS มาร์ก รุตเต เลขาธิการกลุ่มพันธมิตรทางทหารนาโต (NATO) กล่าวในการแถลงข่าวว่า “เรามีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั้งหมดของเรา โดยเฉพาะกับสาธารณรัฐเกาหลี” เกี่ยวกับพัฒนาการระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย แต่เน้นย้ำว่านาโตต้องการการยืนยันเพิ่มเติมก่อนจะตัดสินใจอะไรต่อไป
รุตเตเน้นย้ำว่า เกาหลีเหนือกำลังช่วยยกระดับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แม้ว่าจะไม่ได้ไปช่วยในสมรภูมิจริงก็ตาม
โฆษกของสหภาพยุโรปยังกล่าวอีกว่า กำลังติดตามพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ และ “พร้อมที่จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ” รวมถึงการคว่ำบาตรเพิ่มเติม หากข้อกล่าวหาได้รับการยืนยัน
ด้าน ปีเตอร์ สตาโน โฆษกสหภาพยุโรป กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การสนับสนุนทางทหารอย่างต่อเนื่องจากเกาหลีเหนือต่อสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซียจะได้รับการตอบโต้อย่างเหมาะสม”
เรียบเรียงจาก Yonhap