ระบบการเลือกตั้งของสหรัฐฯ นั้น เมื่อประชาชนไปใช้สิทธิผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ความแล้วพวกเขากำลังลงคะแนนเสียงให้บุคคลกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี” (Electoral Vote) ต่างหาก
ผู้เลือกตั้งเป็นเหมือนตัวแทนจากแต่ละรัฐ จะมีจำนวนเป็นสัดส่วนกับจำนวนประชากรของรัฐนั้น ๆ ซึ่งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับคะแนนเสียงจากผู้เลือกตั้งมากที่สุดจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
โดยผู้เลือกตั้งมีจำนวนทั้งหมด 538 คน หมายความว่า ผู้สมัครต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 270 เสียง จึงจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
แต่จากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันที่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย. ใกล้เข้ามา ปรากฏว่า ไม่ว่าจะ “โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน หรือ “กมลา แฮร์ริส” จากพรรคเดโมแครต ยังไม่มีใครที่น่าจะได้คะแนนเสียงจากรัฐต่าง ๆ รวมจนน่าจะได้ Electoral Vote เกิน 270 เสียงเลย
Washington Post ได้ลองประเมิน 8 ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร โดยมีอยู่ 5 ฉากมัศน์ที่มีความเป็นไปได้สูง และอีก 3 ฉากทัศน์โอกาสเกิดค่อนข้างน้อย
ฉากทัศน์เหล่านี้มีปัจจัยชี้ขาดส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐ “สวิงสเตท” ทั้ง 7 รัฐ ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน
โดย ณ ปลายเดือน ก.ย. แฮร์ริสมีคะแนนความนิยมนำทรัมป์อยู่ใน 4 รัฐ คือ มิชิแกน เนวาดา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ส่วนทรัมป์นำอยู่ใน 2 รัฐ คือ แอริโซนา และจอร์เจีย ขณะที่อีกรัฐอย่างนอร์ทแคโรไลนานั้นเสมอกันอยู่
ส่วนรัฐที่ไม่ใช่สวิงสเตทนั้น จะทำให้แฮร์ริสการันตีคะแนน Electoral Vote ไว้ได้ที่ 226 คะแนน ขณะที่ทรัมป์จะมี Electoral Vote ที่ได้แน่นอนอยู่ 219 คะแนน
ย้อนรอยคดี “ฉ้อโกง” ชื่อดัง! ในไทย เสียหายหลายหมื่นล้าน-จำคุกแสนปี!
โรนัลโด้ ยืนหนึ่ง ฟอร์บส์จัด 10 อันดับนักเตะรายได้มากที่สุด ปี 2024
วิธีซื้อ "หวย N3" ย้ำอย่าหลงเชื่อรับสมัครตัวแทน ขายเฉพาะจุดทดสอบเท่านั้น
ทั้ง 8 ฉากทัศน์นี้เรียงตามโอกาสความเป็นไปได้จากมากไปน้อย ดังนี้
ฉากทัศน์ที่ 1 : แฮร์ริสได้ Electoral Vote 270 เสียงพอดี
3 ใน 4 ของรัฐสวิงสเตทที่แฮร์ริสนำทรัมป์อยู่ คือ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน มี Electoral Vote รวมกันที่ 44 คะแนนพอดี นั่นหมายความว่า หากในวันเลือกตั้งทั่วไปแฮร์ริสยังสามารถรักษาคะแนนเสียงในรัฐเหล่านี้ไว้ได้ เธอจะมี Electoral Vote 270 คะแนนพอดิบพอดี (226 + 44 = 270)
ฉากทัศน์ที่ 2 : ทรัมป์ได้ Electoral Vote 270 เสียงพอดี
ทรัมป์มีโอกาสได้ Electoral Vote 270 คะแนนพอดีหากเขาชนะในรัฐจอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย เพราะจะทำให้ได้คะแนนรวมกัน 51 คะแนน บวกที่จะได้จากรัฐที่เป็นฐานเสียง 219 คะแนน จะรวมเป็น 270 คะแนน
แต่ทรัมป์มีคะแนนนำแฮร์ริสแค่ในรัฐจอร์เจียเท่านั้น ส่วนนอร์ทแคโรไลนาเสมอกันอยู่ และแพ้แฮร์ริสในเพนซิลเวเนีย หมายความว่าทรัมป์ต้องพยายามอย่างหนักใน 2 รัฐนี้หากต้องการชนะแบบเฉียดฉิว
ฉากทัศน์ที่ 3 : แฮร์ริสชนะได้แบบเดียวกับไบเดนเมื่อปี 2020
ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 โจ ไบเดน โค่นทรัมป์ได้ด้วยการเอาชนะในรัฐแอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งจากผลโพลประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่แฮร์ริสจะทำซ้ำได้อีกครั้ง แม้จะต้องพลิกเอาชนะทรัมป์ในแอริโซนาและจอร์เจียที่ทรัมป์นำอยู่ให้ได้ก็ตาม
ฉากทัศน์ที่ 4 : ทรัมป์ชนะ 5 ใน 7 รัฐสวิงสเตท
ฉากทัศน์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อทรัมป์ยังคงคะแนนเสียงในแอริโซนาและจอร์เจียไว้ได้ จากนั้นต้องพลิกเอาชนะในรัฐที่เสมอกันคือนอร์ทแคโรไลนา และมีโอกาสชนะในเนวาดาเพราะคะแนนนิยมแฮร์ริสนำอยู่ไม่มาก
แต่แค่ 4 รัฐนี้จะทำให้ทรัมป์ได้ Electoral Vote แค่ 269 คะแนนเท่านั้น ดังนั้นเขาจะต้องการอีก 1 รัฐ และเป็นรัฐไหนก็ได้ที่แฮร์ริสนำอยู่ ซึ่งจากสถิติในอดีต มีโอกาสที่จะเป็นวิสคอนซินมากที่สุด แต่น่าสนใจเพราะโพล ณ ปลายเดือน ก.ย. วิสคอนซินเป็นรัฐสวิงสเตทที่ทรัมป์คะแนนย่ำแย่สุด
ฉากทัศน์ที่ 5 : ทรัมป์ชนะแบบเดียวกับที่เคยทำเมื่อปี 2016
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ทรัมป์ชนะ 6 ใน 7 รัฐสวิงสเตท คือ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน
นี่เคยเป็นเส้นทางที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดสำหรับทรัมป์เมื่อครั้งที่คู่แข่งของเขายังเป็น โจ ไบเดน แต่เมื่อเดโมแครตเปลี่ยนตัวแคนดิเดตเป็น กมลา แฮร์ริส แทน กลับทำให้คะแนนนิยมของเขาลดลง และทำให้เส้นทางที่น่าจะแน่นอนกลายเป็นไม่แน่นอนขึ้นมา
ฉากทัศน์ที่ 6 : แฮร์ริสชนะแบบเสียรัฐที่คะแนนนิยมนำอยู่
ฉากทัศน์นี้คาดว่ามีโอกาสเป็นไปได้น้อย คือเคสที่แฮร์ริสแพ้ในรัฐที่คะแนนนิยมน้ำอยู่ตอนนี้ ได้แก่ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน แล้วพลิกชนะในรัฐที่เสมอหรือแพ้ทรัมป์อย่างแอริโซนา จอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา แทน และยังคงต้องหาทางรักษาเนวาดาที่คะแนนนิยมนำอยู่แบบปริ่มน้ำไว้ให้ได้
ฉากทัศน์ที่ 7 : ทรัมป์ชนะแบบแย่งรัฐที่แฮร์ริสนำอยู่มาได้
ฉากทัศน์นี้คือทรัมป์ยังคงเสียงในรัฐที่นำอยู่อย่างแอริโซนาไว้ได้ แต่พลิกเอาคะแนนจาก 3 รัฐมาจากแฮร์ริสคือ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน โดยอย่างน้อยต้องได้มิชิแกนและเพนซิลเวเนียมา ไม่อย่างนั้นคะแนน Electoral จะไม่ถึง 270 คะแนน
ฉากทัศน์ที่ 8 : แฮร์ริสและทรัมป์เสมอกันด้วยคะแนน 269 คะแนน
นี่เป็นสถานการณ์ที่เกิดได้ยากที่สุดแต่มีหลายวิธีที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยตัวแปนสำคัญจะไม่ใช่ 7 รัฐสวิงสเตท แต่เป็น 2 สองรัฐที่กำหนดคะแนนเสียงเลือกตั้งของแตกต่างจากชาวบ้าน นั่นคือรัฐเมนและเนแบรสกา
ทั้งสองรัฐนี้ไม่ได้ใช้กฎผู้ชนะได้ทั้งหมด (Win Take All) เหมือนรรัฐอื่น แต่กลับให้คะแนน Electoral แบบแยกตามเขต
ดังนั้น หากแฮร์ริสชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน เธอจะได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้ง 270 คะแนนพอดี แต่หากเธอแพ้ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ของรัฐเนแบรสกา ก็จะมีคะแนนเสียงเหลือ 269 คะแนน และผู้สมัครทั้งสองจะมีคะแนน Electoral Vote 269 คะแนนเท่ากัน
สถานการณ์เดียวกันจะเกิดขึ้นหากทรัมป์ชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย จอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา แต่แพ้เขตเลือกตั้งที่ 2 ของรัฐเมน
เรียบเรียงจาก Washington Post