สิ่งที่หลายฝ่ายจับตามองหลังจากที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 คือคณะรัฐมนตรีที่ทรัมป์จะเลือกขึ้นมานั่งในตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ในทำเนียบขาว ซึ่งหลังจากผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ โครงร่างของ ครม. 2.0 ของเขาก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
วันที่ 12 พ.ย. ทรัมป์ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่จะมีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีออกมาเกือบ 10 คน ถือเป็นก้าวแรกสู่การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและหน่วยงานสำคัญของรัฐบาล
นอกจากนี้ เขายังแสดงความคิดเห็นต่อสื่อและโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับสิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเมื่อเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม โดยเน้นเป็นพิเศษที่การย้ายถิ่นฐานและนโยบายต่างประเทศ
วิธีเปลี่ยนเสียงเรียกเข้า-เสียงรอสายเฉพาะแชตบน LINE
ส่อง 30 ลุค! พร้อมเคาะคะแนน "โอปอล สุชาตา" ก่อนรอบพรีลิมฯ "Miss Universe 2024" 15 พ.ย.นี้!
ย้อนดูมูลค่าตัวเลขการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ในประเทศไทย
สำหรับชื่อที่ทรัมป์ประกาศออกมา ณ ขณะนี้มีดังนี้
อีลอน มัสก์
มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผู้สนับสนุนคนสำคัญของทรัมป์ในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้รับหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ของทรัมป์ โดยมีรายงานว่าเขาให้คำปรึกษาแก่ประธานาธิบดีคนใหม่เกี่ยวกับการเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี และยังเข้าร่วมการสนทนาระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย
เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย. ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะมอบหมายให้มัสก์ดำรงตำแหน่งในกรมประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency) ดูแลสัญญาและสัมปทานต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางและลดงบประมาณที่เขาเห็นว่าไม่จำเป็น
มีรายงานว่าทีมการเมืองของมัสก์ใช้เงินไปประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.9 พันล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือการหาเสียงของทรัมป์
วิเวก รามาสวามี
ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน จะได้ดำรงตำแหน่งในกรมประสิทธิภาพรัฐบาลเช่นเดียวกับมัสก์
ทรัมป์กล่าวถึงการแต่งตั้งมัสก์และรามาสวามีว่า “คนอเมริกันทั้งสองคนนี้จะร่วมกันปูทางให้ฝ่ายบริหารของผมสามารถรื้อถอนระบบราชการ ลดกฎระเบียบที่มากเกินไป ลดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญต่อขบวนการ ‘ช่วยอเมริกา’”
คริสตี โนเอม
ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตา ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
โนเอมถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดีเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เป็นพันธมิตรของทรัมป์มาอย่างยาวนานและได้รณรงค์หาเสียงอย่างแข็งขันเพื่อประธานาธิบดีคนใหม่
เธอตกเป็นข่าวเมื่อต้นปีนี้ เมื่อเธอเปิดเผยในบันทึกความทรงจำว่า เธอฆ่าสุนัขของเธอด้วยปืนลูกซองเพราะมัน “ฝึกไม่เชื่อง” และ “อันตราย”
พีต เฮกเซธ
พิธีกรของช่องโทรทัศน์ Fox News และนักเขียนแนวอนุรักษ์นิยม ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เฮกเซธเป็นทหารผ่านศึก และอดีตหัวหน้ากลุ่มรณรงค์เพื่อทหารผ่านศึก 2 กลุ่ม เขาเคยลงสมัครชิงที่นั่งในวุฒิสภาในรัฐมินนิโซตาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ทรัมป์เขียนในแถลงการณ์ว่า “พีทเป็นคนเข้มแข็ง ฉลาด และเชื่อมั่นอย่างแท้จริงในหลักการอเมริกาต้องมาก่อน หากพีตเป็นผู้นำ ศัตรูของอเมริกาก็รู้ทันทีว่ากองทัพของเราจะยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง และอเมริกาจะไม่มีวันถอยกลับ”
การแต่งตั้งเขาเป็นหนึ่งในการแต่งตั้งที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ ขณะที่สงครามในยูเครนและกาซายังคงดำเนินต่อไป
ทรัมป์กล่าวว่า “ไม่มีใครสู้เพื่อกองทัพได้มากกว่านี้อีกแล้ว และพีตจะเป็นผู้สนับสนุนนโยบาย ‘สร้างสันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง’ ของเราอย่างกล้าหาญและด้วยความรักชาติ”
สตีเฟน มิลเลอร์
ที่ปรึกษาใกล้ชิดและผู้เขียนสุนทรพจน์ของทรัมป์ตั้งแต่ปี 2015 เป็นตัวเลือกของทรัมป์สำหรับรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายของทำเนียบขาว
เขามีแนวโน้มที่จะกำหนดแผนการเนรเทศจำนวนมาก และลดจำนวนผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารและถูกกฎหมายลง
ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์ มิลเลอร์มีส่วนร่วมในการพัฒนานโยบายด้านการย้ายถิ่นฐานที่เข้มงวดที่สุดบางส่วนของฝ่ายบริหาร
ไมค์ วอลต์ซ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากฟลอริดา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งพันเอกในกองทัพ ได้รับเสนอชื่อเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญด้านนโยบายต่างประเทศภายในทำเนียบขาว
วอลต์ซกล่าวว่า สหรัฐฯ อยู่ในสงครามเย็นกับจีน และเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาคองเกรสชุดแรกที่เรียกร้องให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่งในปี 2022
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนมักจะไม่ราบรื่นในช่วงวาระแรกของทรัมป์ ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าและการระบาดของโควิด-19 และตอนนี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลทรัมป์ชุดต่อไปจะดำเนินรอยตามต่อจากชุดก่อน
ชื่อที่ยังรอการประกาศ
ระหว่างนี้ ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่ง จะลงเอยที่ไหน ทรัมป์กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะให้อดีตสมาชิกพรรคเดโมแครตรายนี้ ซึ่งหันสนับสนุนพรรครีพับลิกัน เข้ามามีบทบาทในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมา “มีสุขภาพดี” อีกครั้ง
ทรัมป์กล่าวในการปราศรัยชัยชนะการเลือกตั้งว่า “เขาต้องการทำบางอย่าง และเราจะปล่อยให้เขาทำ”
นอกจากนี้ แม้ว่าทรัมป์จะยังไม่ได้ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ แต่คาดว่า มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากฟลอริดา ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนโยบายต่อต้านจีนอีกคนหนึ่ง อาจจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศไป
เรียบเรียงจาก BBC