การตัดสินใจของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเสนอชื่อ “พีต เฮกเซธ” พิธีกรรายการข่าว Fox News ให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ทำให้ทั่วโลกตกใจไปตาม ๆ กัน
แม้ทรัมป์จะยกย่องว่าเฮกเซธเป็น “คนแข็งแกร่ง ฉลาด และเชื่อมั่นในแนวทางอเมริกาต้องมาก่อน” แต่หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า จริง ๆ แล้ว พีต เฮกเซธ คือใคร และเขาจะทำหน้าที่ในฐานะผู้นำกองทัพที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกได้หรือไม่
พีต เฮกเซธ เกิดที่รัฐมินนิโซตาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 1980 ปัจจุบันอายุ 44 ปี เคยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารที่อัฟกานิสถานและอิรัก เข้าร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Fox News ในฐานะผู้สนับสนุนในปี 2014 และปัจจุบันเป็นพิธีกรร่วมในรายการ Fox and Friends Weekend รวมถึงเป็นพิธีกรรายการ Fox Nation ด้วย
แฉคลิปเสียงใหม่! หญิงปริศนาคุย “บอสพอล” อ้าง “รัฐมนตรีน้ำ” ให้คุม สคบ.
ศาลปกครองสูงสุดนัดถก เยียวยา “บิ๊กโจ๊ก” กลับตร.
ดูบอลสด อุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ ไทย พบ เลบานอน 14 พ.ย.67
เขายังเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม รวมถึง The War on Warriors: Behind the Betrayal of the Men Who Keep Us Free ซึ่งได้รับคำชมจากทรัมป์
ทรัมป์บอกว่า หนังสือขายดีเรื่อง The War on Warriors “เผยให้เห็นการทรยศของฝ่ายซ้ายที่มีต่อนักรบของเรา และวิธีที่เราต้องนำกองทัพของเรากลับคืนสู่ระบบคุณธรรม อำนาจการสังหาร ความรับผิดชอบ และความเป็นเลิศ”
ที่ผ่านมา เฮกเซธเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องทหารที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม และในปี 2019 เขาเรียกร้องให้ทรัมป์อภัยโทษทหารสหรัฐฯ ที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม
ตามรายงานของ The Washington Post การล็อบบี้ทรัมป์ของเฮกเซธในปี 2019 ส่งผลให้มีการอภัยโทษทหาร 2 นายที่ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรม และมีการคืนยศให้กับทหารนายที่ 3 ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานโพสต์ท่าถ่ายรูปคู่กับศพในอิรัก
เฮกเซธมีความสนิทสนมกับทรัมป์ และเชิญว่าที่ประธานาธิบดีมาปรากฏตัวในรายการ Fox News ของเขาเป็นประจำ
เขาเคยลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกในรัฐมินนิโซตาเมื่อปี 2012 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
เฮกเซธมีปริญญาโทด้านนโยบายสาธารณะจาก Harvard Kennedy School of Government ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นอกจากนี้ เขายังสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันอีกด้วย ปัจจุบันอาศัยอยู่กับภรรยาและลูก 7 คนในรัฐเทนเนสซี
หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันเมื่อปี 2003 เฮกเซธได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทหารราบในกองกำลังป้องกันแห่งชาติของกองทัพบก โดยประจำการอยู่ที่อัฟกานิสถานและอิรัก รวมถึงที่อ่าวกวนตานาโม เขาได้รับรางวัลเหรียญบรอนซ์สตาร์ 2 เหรียญ
แม้จะจริงอยู่ว่าเฮกเซธเคยรับราชการทหาร แต่เขาขาดประสบการณ์ด้านการทหารหรือความมั่นคงแห่งชาติในระดับอาวุโส เพราะกระทรวงกลาโหมต้องดูแลงบประมาณมากกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 28 ล้านล้านบาท), ทหารประจำการประมาณ 1.3 ล้านนาย, ทหารในกองกำลังพิทักษ์ชาติ กองหนุนของกองทัพบก และพนักงานพลเรือนทั่วโลก อีกกว่า 1.4 ล้านคน
หากได้รับการยืนยันให้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมจริง เฮกเซธจะต้องเผชิญกับภารกิจอันน่าหวาดหวั่นในการจัดการกับความขัดแย้งทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสงครามอิสราเอลในฉนวนกาซาและเลบานอน สงครามรัสเซีย-ยูเครน และการขยายพันธมิตรระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ ไปจนถึงการเติบโตของจีน
อดัม สมิธ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวว่า แม้ว่าประสบการณ์การรบของเฮกเซธจะเป็นข้อดี แต่การบริหารกระทรวงกลาโหมยังต้องการทักษะอื่น ๆ อีกมากมาย “คุณมีแผนอย่างไร คุณจะทำอย่างไร … คุณจะรับรองกับเราได้อย่างไรว่าการขาดประสบการณ์นั้นจะไม่ทำให้คุณทำงานไม่ได้ ผมคิดว่าคำถามเหล่านี้ต้องได้รับคำตอบในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า”
ในส่วนของจุดยืน เฮกเซธสนับสนุนอิสราเอลในการรายงานเกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซา และเรียกแนวทางสองรัฐว่าเป็น “คำพูดที่สวยหรู” เขาทำซีรีส์เรื่อง Battle in the Holy Land: Israel at War เกี่ยวกับสงครามอิสราเอลที่ยังคงดำเนินต่อไปในฉนวนกาซา และสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ในเดือนมีนาคม
ในฐานะคริสเตียนผู้เคร่งศาสนา เขามองความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ผ่านมุมมองทางพระคัมภีร์เป็นหลัก
“นี่ไม่ใช่ดินแดนลึกลับที่สามารถมองข้ามได้ แต่เป็นเรื่องราวของชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือก เรื่องราวนั้นไม่ได้จบลงในปี 1776 หรือ 1948 หรือการก่อตั้งสหประชาชาติ เรื่องราวทั้งหมดนี้ยังคงก้องกังวานและมีความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้” เฮกเซธกล่าวเมื่อปี 2016
เฮกเซธยังมีท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่าน โดยเรียกอิหร่านว่า “ระบอบการปกครองที่ชั่วร้าย” หลังจากการสังหารนายพลกัสเซม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ในปี 2020
ส่วนมุมมองเกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรนาโต สงครามรัสเซีย-ยูเครน และจีนนั้น ที่ผ่านมา เฮกเซธวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรนาโตอย่างรุนแรง และการเลือกเขาอาจทำให้สมาชิกนาโตเกิดความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลที่ตามมา
เฮกเซธเขียนไว้ในหนังสือของเขาว่า “นาโตล้าสมัย ไร้กำลัง ถูกรุกราน และไร้ประสิทธิภาพ ทำไมอเมริกาซึ่งเป็นหมายเลขติดต่อฉุกเฉินของยุโรปในศตวรรษที่ผ่านมาจึงต้องฟังประเทศที่ยึดมั่นในความถูกต้องและไร้ประสิทธิภาพที่ขอให้เราเคารพระบบป้องกันที่ล้าสมัยและลำเอียง”
ในพอดแคสต์และโทรทัศน์ เขายังกล่าวว่า “จีนกำลังสร้างกองทัพที่อุทิศให้กับการเอาชนะสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ... พวกเขามีมุมมองระยะยาวที่ครอบคลุมไม่เพียงแค่การครอบงำในภูมิภาคแต่ยังรวมถึงทั่วโลกด้วย”
เขายังกล่าวอีกว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 ดูเหมือนจะเป็น “สงครามที่ปูตินต้องเอาคืน”
ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์การช่วยเหลือยูเครนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของการสนับสนุนยูเครนภายใต้การบริหารของทรัมป์ วุฒิสภา และอาจรวมถึงสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันควบคุมอยู่
“ถ้ายูเครนสามารถปกป้องตัวเองได้ ... ก็ดี แต่ผมไม่อยากให้อเมริกาเข้ามาแทรกแซงในยุโรปอย่างลึกซึ้งและทำให้ปูตินรู้สึกว่าเขากำลังถูกจี้ก้นมากเกินไป” เฮกเซธกล่าว
เรียบเรียงจาก Al Jazeera