ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แถลงผ่านโทรทัศน์ ระบุว่า กองทัพมอสโกใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ซึ่งมีชื่อว่า “โอเรสช์นิก” (Oresshnik) หรือ “ฮาเซล” (Hazel) โจมตีถล่มสิ่งก่อสร้างทางการทหารในเมืองดนีโปร ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอบโต้ยูเครนที่ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลซึ่งได้รับการจัดสรรจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียก่อนหน้านี้
ประธานาธิบดีปูติน เตือนด้วยว่า สงครามในยูเครนกำลังยกระดับเป็นการเผชิญหน้าที่ลุกลามไปทั่วโลกและรัสเซียมีสิทธิ์ตอบโต้ด้วยการโจมตีสิ่งก่อสร้างทางการทหารของประเทศเหล่านั้นที่อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธของตัวเองกับเป้าหมายในรัสเซีย
สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเปลี่ยนนโยบายด้วยการอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล “อะทัคซิมส์" (ATACMS) ของสหรัฐฯ และขีปนาวุธพิสัยไกล “สตอร์ม ชาโดว์” (Storm Shadow) ที่สหราชอาณาจักร จัดหาให้โจมตีในดินแดนรัสเซียได้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ปูติน” เตือนสงครามรัสเซีย-ยูเครนกำลังลุกลามไปทั่วโลก
จ่อเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่สิ้น มี.ค.68 คาดมีถึง 25 ล้านคน
ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง "ทักษิณ" ล้มล้าง ครอบงำ "เพื่อไทย"
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ระบุว่า การใช้ขีปนาวุธชนิดใหม่ของรัสเซียคือการเพิ่มขนาดและความโหดร้ายของสงคราม พร้อมเสริมว่า นี่ยังเป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมว่า รัสเซียไม่สนใจสันติภาพ ปูตินไม่เพียงแต่ยืดเยื้อสงครามให้ยาวนานออกไป แต่ยังถ่มน้ำลายใส่หน้าผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสันติภาพให้กลับคืนมา
ก่อนหน้านี้ ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเข้าข่ายขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICMB) แม้เจ้าหน้าที่จากชาติตะวันตกจะตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีนี้ก็ตาม
ด้าน “ไมเคิล บอนเนิร์ต” วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านขีปนาวุธจากสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษา RAND Corporation ของสหรัฐฯ ระบุว่า การใช้ขีปนาวุธดังกล่าว เป็นการส่งข้อความไปยังชาติตะวันตก เนื่องจากรัสเซียกังวลเป็นพิเศษต่อการใช้ขีปนาวุธของชาติตะวันตกในดินแดนของรัสเซีย
“กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธหลายชนิดโจมตียูเครน สิ่งที่แตกต่างคือขีปนาวุธที่มีแนวโน้มจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางและขีปนาวุธข้ามทวีปเกือบทุกลูกที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ และโดยปกติแล้ว พวกมันถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิวเคลียร์ 3 เหล่าในยุทธศาสตร์ชาติของรัสเซีย ในเคสนี้ การใช้อาวุธพิสัยไกลเพื่อโจมตีเป้าหมายระยะใกล้มากนั้นถูกใช้เป็นการส่งข้อความไปยังตะวันตก รัฐบาลรัสเซียไม่ชอบความจริงที่ว่าขีปนาวุธร่อนที่จัดหาโดยตะวันตก ในกรณีนี้คือ Storm Shadows ถูกนำมาใช้ในดินแดนรัสเซีย สังเกตว่าขีปนาวุธนี้มีพิสัยใกล้กว่าขีปนาวุธหลายร้อยลูกที่รัสเซียยิงถล่มยูเครนมาก ทั่วไปแล้ว ก็ไม่แตกต่างไปจากสิ่งที่รัสเซียทำอยู่ อย่างไรก็ตาม รัสเซียมีความกังวลเป็นพิเศษต่อการใช้ขีปนาวุธของชาติตะวันตกในดินแดนรัสเซีย”
ด้านสถาบันวิจัยด้านความมั่นคงของสหราชอาณาจักรที่ระบุว่าขีปนาวุธรุ่นใหม่ของรัสเซียมีพิสัยทำการไกลกว่าขีปนาวุธ “อิสกันเดอร์” ระยะ 500 กิโลเมตร ที่รัสเซียใช้โจมตีถล่มยูเครนตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ขีปนาวุธพิสัยกลางที่ประธานาธิบดีปูตินกล่าวถึง ตามปกติแล้วจะมีพิสัยทำการ 3,000 – 5,500 กิโลเมตร ซึ่งการใช้อาวุธชนิดนี้ไม่มีนัยสำคัญทางการทหารมากนัก แต่มีผลเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากรัสเซียเพิ่งจะปรับหลักการการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการลดเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับการใช้อาวุธดังกล่าว