การประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล เมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค. 2024 ถือเป็นการประกาศกฎอัยการศึกครั้งแรกในรอบ 45 ปีของประเทศเกาหลีใต้ นับจากครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 1979
นั่นทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การประกาศกฎอัยการศึกทั้งสองครั้งมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และความจริงแล้ว ตามกฎหมายเกาหลีใต้ สถานการณ์ใดบ้างที่ผู้นำสามารถประกาศกฎอัยการศึกได้
สำหรับกฎอัยการศึกเมื่อปี 1979 นั้น มีการประกาศใช้ทันทีหลังเหตุการณ์ “10/26” หรือการลอบสังหาร “พัค จอง-ฮี” ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของเกาหลีใต้ ซึ่งลอบถูกสังหารเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 1979
พัค จอง-ฮี ถูกยิงเข้าที่ลำตัวและศีรษะระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เซฟเฮาส์ของสำนักข่าวกรองกลางเกาหลี (KCIA) ในเขตจองโน กรุงโซล ซึ่งอยู่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี โดยเขาเสียชีวิตแทบจะในทันที รวมถึงบอดี้การ์ด 4 คนและคนขับรถของเขาก็เสียชีวิตด้วย
หลังเหตุลอบสังหาร กองทัพเกาหลีใต้ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกทันที โดยอ้างว่าเพื่อควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศไม่ให้วุ่นวาย
ในเวลานั้นได้มีการเลือก “ชเว กู-ฮา” ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ของเกาหลีใต้ แต่ในเดือน ธ.ค. 1979 “พล.อ.ชอน ดู-ฮวาน” ได้ก่อการรัฐประหาร และจากนั้นในเดือน พ.ค. 1980 ชอนประกาศขยายกฎอัยการศึกทั่วประเทศและยุบรัฐบาลพลเรือนทั้งหมด กลายเป็นผู้ปกครองเกาหลีใต้โดยพฤตินัย
วิเคราะห์สาเหตุประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก!
หมายความว่า การประกาศกฎอัยการศึกของรัฐบาลทหารในเวลานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อยึดอำนาจ
ในเวลานั้น การประท้วงของนักศึกษาทวีความรุนแรงขึ้นในกรุงโซลและกวางจู การประท้วงในกวางจูส่งผลให้เกิดการปราบปรามด้วยความรุนแรง ส่งผลให้พลเรือนประมาณ 987 คนถูกสังหารภายในระยะเวลา 5 วันโดยกองทัพของ พล.อ.ชอน
กฎอัยการศึกครั้งนั้นมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 24 ม.ค. 1981 หลังจากเขาได้ขึ้นเป้นประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ และจากนั้นมา เกาหลีใต้ไม่เคยมีการประกาศกฎอัยการศึกอีกเลยจนมาถึง ยุน ซอก-ยอล
อย่างไรก็ตาม การประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุนในครั้งนี้มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของสถานการณ์และภูมิหลังเมื่อเทียบกับการประกาศกฎอัยการศึกของรัฐบาลทหารเมื่อ 45 ปีที่แล้ว
โดยขณะที่กฎอัยการศึก 1979 มีขึ้นเพื่อยึดอำนาจ ประธานาธิบดียุนอาจประกาศกฎอัยการศึกเพราะมองว่า การที่พรรคฝ่ายค้านซึ่งมีที่นั่งจำนวนมาก ยื่นถอดถอนอัยการและปฏิเสธข้อเสนอร่างงบประมาณของรัฐบาลนั้น เป็น “สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ”
มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ระบุว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อาจประกาศกฎอัยการศึกได้ “เมื่อจำเป็นต้องตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพ หรือรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยการระดมกำลังทหารในช่วงสงคราม การสู้รบ หรือสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน”
ประธานาธิบดียุนประกาศในสุนทรพจน์ในวันที่ 3 ธ.ค. ว่า “ข้าพเจ้าประกาศกฎอัยการศึก เพื่อกำจัดกองกำลังที่สนับสนุนเกาหลีเหนือและปกป้องความสงบเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญ”
ประธานาธิบดียุนยังวิพากษ์วิจารณ์พรรคฝ่ายค้านที่ผลักดันให้มีการถอดถอนเจ้าหน้าที่รัฐทีละคน โดยกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวทำให้การดำเนินงานของฝ่ายบริหารหยุดชะงัก”
ยุนยังโจมตีแผนการผลักดันร่างกฎหมายลดการใช้จ่ายของพรรคฝ่ายค้าน โดยกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวได้บ่อนทำลายหน้าที่ที่สำคัญของรัฐ และเปลี่ยนสาธารณรัฐเกาหลีให้กลายเป็นสวรรค์ของยาเสพติดและกลายเป็นรัฐที่ตื่นตระหนกในเรื่องความปลอดภัยสาธารณะ”
ประธานาธิบดียุนเน้นย้ำว่า “ชีวิตของประชาชนเหมือนไม่ได้อยู่ในสายตาเลย และฝ่ายบริหารของรัฐก็ต้องหยุดชะงักเพราะการถอดถอนเจ้าหน้าที่ การดำเนินคดีพิเศษ และพฤติกรรมของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ... ขณะนี้สาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในภาวะที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะล่มสลายลงเมื่อใดก็ได้”
อย่างไรก็ตาม แม้วัตถุประสงค์ของการประกาศกฎอัยการศึกทั้งสองครั้งจะแตกต่างกันในรายละเอียด แต่แก่นของมันไม่ต่างกัน นั่นคือเรื่องของ “อำนาจ” หนึ่งทำเพื่อยึดอำนาจ ส่วนอีกหนึ่งเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้
เรียบเรียงจาก Yonhap