แถลงการณ์ของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา เรือรบในสังกัดได้โจมตีท่าเรือ อัล-เบดา (Al-Bayda) และท่าเรือลาตาเกีย (Latakia) ของซีเรีย ซึ่งมีเรือ 15 ลำจอดเทียบท่าอยู่
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ ยืนยันว่า ปฏิบัติการทำลายกองเรือรบซีเรียประสบความสำเร็จ โดยยืนยันว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นการกำจัดภัยคุกคามต่ออิสราเอล
ด้านองค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่า นับตั้งแต่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นล่มเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. กองทัพอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศเข้าใส่ดินแดนของซีเรียมากกว่า 310 ครั้ง รวมถึงในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศ
เป้าหมายการโจมตีส่วนใหญ่เป็นสิ่งปลูกสร้างทางทหารของกองทัพซีเรีย เช่น คลังเก็บอาวุธ, คลังกระสุน, สนามบิน, ฐานทัพเรือ และศูนย์วิจัย โดยหลายแห่งถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
“ชาล็อต-ณวัฒน์” แถลง เผยกลโกงมิจฉาชีพใช้เอไอหลอกสูญเงิน 4 ล้าน
ออสเตรเลียสั่งสอบ ตัวอย่างไวรัสอันตราย 300 ตัวอย่างหายไปจากห้องแล็บ
คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุดในปี 2024 ?
นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังยืนยันว่า ทหารในสังกัดกำลังปฎิบัติภารกิจในพื้นที่อื่นของซีเรียนอกเหนือจากเขตยึดครองที่ราบสูงโกลัน โดยมีรายงานพบความเคลื่อนไหวของทหารอิสราเอลใกล้กรุงดามัสกัส
ขณะเดียวกัน ตุรกีร่วมกับชาติในตะวันออกกลางอีกหลายประเทศ รวมถึง กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์ กล่าวหาอิสราเอลว่ากำลังฉวยโอกาสหลังการล่มสลายของรัฐบาลประธานาธิบดีอัสซาดขยายพื้นที่ยึดครองในซีเรีย
โดยประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ผู้นำตุรกี ประกาศต่อต้านการโจมตีใด ๆ ต่อเสรีภาพของประชาชน, เสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ และบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย
ส่วนสถานการณ์ในซีเรีย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. โมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ หนึ่งในผู้นำกลุ่มกบฏที่ช่วยโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีอัสซาด ประกาศว่า ตนเองจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวของรัฐบาลเปลี่ยนผ่านไปจนถึงวันที่ 1 มี.ค. ปีหน้า
โดยอัล-บาชีร์ ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลจังหวัดอิดลิบ จะเป็นผู้นำคณะรัฐมนตรีเพื่อทำให้บริการสาธารณะต่างๆสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยหน่วยงานรัฐบางแห่งเริ่มขอให้ข้าราชการและบุคลากรทางการแพทย์กลับมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว