ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน แถลงในการประชุมสุดยอดผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยระบุว่ายูเครนหวังว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาลเคียฟและชาติพันธมิตร พร้อมเสริมว่า หลักประกันด้านความมั่นคงของยุโรปเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับยูเครน ที่ปราถนาจะเข้าร่วมพันธมิตรทางทหารขององค์กรสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO)
ประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุด้วยว่า ยูเครนไม่สามารถอยู่กับความขัดแย้งที่ถูกแช่แข็งได้ (Frozen Conflict) หรือความขัดแย้งที่การสู้รบยุติลงโดยไม่มีข้อตกลงสันติภาพอย่างเป็นทางการ เนื่องจากประเทศจำเป็นจะต้องมีหลักประกันในอนาคตอันใกล้นี้ พร้อมเสริมว่า การหารือเกี่ยวกับการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพต่างชาติเข้าไปในยูเครนที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะนี้นั้นมีความสำคัญและสหรัฐฯ ควรมีส่วนร่วมในประเด็นนี้
ต่อความคิดเห็นของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียที่เสนอแนะให้ทดสอบระบบการป้องกันทางอากาศของรัสเซียด้วยการยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “โอเรชนิก” ขีปนาวุธรุ่นใหม่ของกองทัพมอสโกถล่มเป้าหมายในยูเครนนั้นประธานาธิบดีเซเลนสกีตอบว่า ทุกคนคิดว่าประธานาธิบดีปูตินยังสติดีอยู่หรือไม่และเขาเป็นคนสารเลว
ตร.ไซเบอร์ รวบนักร้องนำวงเมทัล ดูแลบัญชีเว็บพนัน รับใช้เงินเกินตัว ติดกินหรูอยู่แพง!
พยากรณ์ล่วงหน้า ช่วงปีใหม่อากาศแปรปรวน-มีฝนรบกวนช่วงวันหยุดยาว
20 ที่เที่ยวปีใหม่ ใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับ เดินทางง่าย
ขณะที่อียูให้คำมั่นจะมอบการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมอีก 30,000 ล้านยูโรหรือกว่า 1 ล้านล้านบาทให้กับยูเครนในปี 2025 หลังให้การสนับสนุนทางการเงินยูเครนแล้ว 130,000 ล้านยูโรหรือกว่า 4.6 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่เผชิญการรุกรานของรัสเซีย
สำหรับถ้อยแถลงของผู้นำยูเครนมีขึ้นหลังประธานาธิบดีปูตินแถลงข่าวประจำปี โดยระบุว่า รัสเซียควรเปิดฉากการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเร็วกว่านี้และเตรียมความพร้อมในการทำสงครามให้ดีขึ้น
ประธานาธิบดีปูตินเสริมว่าขณะนี้กองทัพรัสเซียใกล้บรรลุเป้าหมายหลักในสนามรบกับยูเครน หลังรุกคืบเข้ายึดพื้นที่ต่าง ๆ ได้ในแต่ละวัน แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกโตาม
ในประเด็นการล่มสลายของระบอบการปกครองของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดในซีเรีย "ปูติน" ยืนยันว่า ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของทำเนียบเครมลินซึ่งให้การสนับสนุนอดีตประธษานาธิบดีอัสซาดทางการทหารมาเป็นเวลานานหลายปี แต่ยอมรับว่า สถานการณ์มีความซับซ้อน
ผู้นำรัสเซียเสริมว่า ตนเองยังไม่ได้พูดคุยกับอดีตประธานาธิบดีซีเรียที่หลบหนีไปยังกรุงมอสโกขณะที่กองกำลังฝ่ายกบฎปิดล้อมกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่มีเผนที่จะหารือกับอดีตประธานาธิบดีอัสซาดในเร็ววันนี้ พร้อมเสริมว่ารัสเซียกำลังเจรจากับผู้นำคนใหม่ของซีเรีย เพื่อรักษาฐานทัพทหารของกองทัพที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมอสโกจะพิจารณาใช้ฐานทัพเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรมต่อไป
ส่วน "ทรัมป์" นั้น "ปูติน" ตอบว่า ไม่ได้พบกันนาน 4 ปีแต่พร้อมจะหารือทุกเมื่อหาก "ทรัมป์" ต้องการ
ขณะที่ความสัมพันธ์กับจีนขณะนี้ชื่นมื่นสุดเป็นประวัติการณ์ และทั้งสองประเทศ กำลังประสานงานการดำเนินงานต่าง ๆ ในเวทีโลกร่วมกัน