รัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งยกเลิกเงินรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 342 ล้านบาท) สำหรับการจับกุม อาเหม็ด อัล-ชารา ผู้นำคนใหม่ของซีเรีย หลังการพบหารือระหว่างนักการทูตอาวุโสและตัวแทนจากกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ที่เป็นแกนนำในการโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล- อัสซาด แห่งซีเรีย
คณะผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย บาร์บารา ลีฟ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงดามัสกัสของซีเรีย ต่อจากคณะผู้แทนจากสหประชาชาติ (UN) และประเทศอื่น ๆ
หลังจากกลุ่ม HTS โค่นล้มระบอบการปกครองของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด เมื่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อน
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าคณะนักการทูตเข้าหารือกับอัล-ชาราซึ่งขณะนี้เป็นผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านการปกครองในซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ กิจกรรมความเคลื่อนไหวระดับภูมิภาคและความจำเป็นในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS)
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลเมืองอเมริกันที่หายตัวไปในซีเรียภายใต้ระบอบการปกครองของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด รวมถึง ออสติน ไทซ์ นักข่าวที่ถูกลักพาตัวในกรุงดามัสกัส เมื่อปี 2012 และมัจด์ คามัลมาซ นักจิตบำบัดที่หายตัวไปในปี 2017
การเดินทางเยือนกรุงดามัสกัสครั้งนี้ถือเป็นการปรากฎตัวของคณะทูตสหรัฐฯ ในซีเรีย อย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ
นี่ยังถือเป็นสัญญาณเพิ่มเติมของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในซีเรีย นับตั้งแต่การโค่นล้มระบอบอัสซาด และความพยายามที่รวดเร็วของสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งยังต้องพึ่งพาบรรดาประเทศอาหรับ ในการมีอิทธิพลต่อระบอบการปกครองที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ในซีเรีย
การพบหารือกับกลุ่มเอชทีเอสเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรับมือกับกลุ่มดังกล่าวที่สหรัฐฯ ยังกำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้าย แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความกดดันให้เอชทีเอสเปลี่ยนผ่านการปกครองไปสู่การเป็นรัฐบาลที่ครอบคลุมและไม่แบ่งแยกนิกาย
ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันกำลังวางเงื่อนไขอย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่จะพิจารณาเพิกถอนกลุ่มนี้ออกจากรายชื่อองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยย่นระยะทางสู่การบรรเทามาตรการคว่ำบาตรที่ซีเรียต้องการอย่างยิ่ง