ระหว่างการประชุมด้านจัดการภัยพิบัติที่กรุงโซล ชเว ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แถลงว่า กระทรวงคมนาคมได้รับคำสั่งให้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยระบบการบินทั้งประเทศอย่างเร่งด่วน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกู้ภัยจากเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ไถลออกนอกรันเวย์ ของท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ก่อนพุ่งชนแนวรั้วกำแพงคอนกรีตจนเกิดไฟลุกท่วม และทำให้ผู้อยู่บนเครื่องเสียชีวิต 179 คน
ชเวยังย้ำว่า สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้คือ การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของเหยื่อทุกคน ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย และรักษาอาการบาดเจ็บของผู้รอดชีวิตทั้ง 2 คน
ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินระบุว่า คาดว่าเหตุการณ์ที่ท่าอากาศยานมูอันอาจมีสาเหตุจากระบบลงจอดล้มเหลว เครื่องบินจึงลงจอดโดยที่ล้อไม่กางออกมา
ขณะที่กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้แถลงว่า จะดำเนินการตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง B737-800 ทุกลำในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ให้บริการโดยสายการบินภายในประเทศต้นทุนต่ำ โดยสายการบินเจจูแอร์ จัดซื้อเครื่องบินรุ่นนี้มาใช้เป็นจำนวนมากที่สุดถึง 39 ลำเพื่อให้บริการผู้โดยสารในเที่ยวบินต่าง ๆ
ส่วนคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมของการมีแนวกำแพงคอนกรีตไว้ที่รันเวย์ของท่าอากาศยานมูอัน กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ชีัแจงวาาสนามบินอื่น ๆ ในประเทศ และอีกหลายแห่งในต่างประเทศ ก็มีอุปกรณ์ติดตั้งเอาไว้ในโครงสร้างคอนกรีตลักษณะคล้ายกันนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า โครงสร้างดังกล่าวควรสร้างจากวัสดุน้ำหนักเบา ที่สามารถแตกหักได้ง่ายเมื่อเกิดการปะทะหรือไม่
ด้านแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการบินเปิดเผยว่า เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง B737-800 ของสายการบินเจจูแอร์ ลำที่ประสบอุบัติเหตุ ผ่านการใช้งานมาแล้วอย่างน้อย 13 เที่ยวบิน ภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมง
เส้นทางบินของเครื่องบินลำดังกล่าวรวมถึง เขตมูอัน เกาะเจจู ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ส่วนเส้นทางต่างประเทศประกอบไปด้วย กรุงปักกิ่งของจีน เมืองโกตากีนาบาลูของมาเลเซีย เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ไทเปของไต้หวัน และท่าอากาศยานนาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
ขณะเดียวกัน เจจูแอร์เปิดเผยว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนถึงเวลา 13.00 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น มีการแจ้งยกเลิกตั๋วเครื่องบินแล้ว 68,000 ที่นั่ง
ในจำนวนตั๋วที่ถูกยกเลิกนั้น มากกว่า 33,000 ใบเป็นตั๋วโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ และอีกกว่า 34,000 ใบเป็นตั๋วโดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ
สายการบินระบุว่า การยกเลิกส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังเวลา 09.00 น. ของวันจันทร์ที่ 29 ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เที่ยวบิน 7C 2216 เกิดอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ขณะลงจอด
บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในพื้นที่ยังรายงานว่า มีการยกเลิกแพ็กเกจทัวร์เพิ่มขึ้นหลังจากเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว โดยบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวหลายแห่งได้ระงับโฆษณาทางทีวีและออนไลน์ รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการขายต่าง ๆ แล้ว
บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวรายหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่าได้รับการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการยกเลิกการเดินทางประมาณ 40 รายการในวันที่ 29 ธ.ค. เพียงวันเดียว พบว่ามีการยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของปกติ และการจองลดลง 50%
โดยขณะนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าจะมีผลกระทบต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางการบินเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ราคาหุ้นของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju) ปรับตัวลดลง 8.4% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 30 ธ.ค. โดยมีอยู่ราคาอยู่ที่ 6,920 วอน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2015 ก่อนที่ราคาจะกลับมายืนที่ระดับ 7,500 วอนได้เมื่อปิดตลาด
เช่นเดียวกับราคาหุ้นโบอิ้ง ซึ่งปรับตัวลงประมาณ 4% ระหว่างการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยมีมูลค่าอยู่ที่หุ้นละประมาณ 176 ดอลลาร์
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
