องค์การอวกาศนาซา (NASA) เปิดเผยว่า คนบนโลกมองเห็นดาวหาง “C/2024 G3 (Atlas)” ที่สว่างไสวบนท้องฟ้าเป็นครั้งแรกในรอบ 160,000 ปี โดยยอมรับว่า การทำนายความสว่างของดาวหางดวงดังกล่าวเป็นเรื่องยาก ในอนาคตนั้น แต่คาดว่าจะสว่างเพียงพอที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และอาจส่องสว่างได้เท่ากับดาวศุกร์
ณ วันที่ 13 ม.ค. ดาวหาง C/2024 G3 (Atlas) อยู่ที่ตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด ซึ่งส่งผลต่อความสว่างที่ปรากฏ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าดาวหางอาจมองเห็นได้ตั้งแต่คืนวันที่ 13 ม.ค.
แม้ว่าจะไม่ทราบตำแหน่งที่แน่ชัดสำหรับการมองเห็นที่เป็นไปได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า น่าจะสังเกตได้ดีที่สุดจากซีกโลกใต้
ดาวหางดวงนี้ถูกค้นพบเมื่อปีที่แล้วโดยระบบแจ้งเตือนครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับการชนกับดาวเคราะห์น้อย (ATLAS) ของนาซา
ดร.ชยัม บาลาจี นักวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาคดาราศาสตร์และจักรวาลวิทยาที่คิงส์คอลเลจลอนดอน กล่าวว่า “จากการคำนวณวงโคจรในปัจจุบันบ่งชี้ว่า ดาวหางจะโคจรห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 8.3 ล้านไมล์ จัดอยู่ในประเภทดาวหางที่โคจรรอบดวงอาทิตย์”
ทางมหาวิทยาลัยระบุว่า โอกาสมองเห็นดาวหางดวงนี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 160,000 ปี
ดร.บาลาจีกล่าวว่า โอกาสที่จะสังเกตเห็นดาวหางดวงนี้อาจเกิดขึ้น “ในช่วงที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และพฤติกรรมของดาวหาง เช่นเดียวกับดาวหางทุกดวง การมองเห็นและความสว่างของดาวหางดวงนี้ไม่สามารถคาดเดาได้”
เขากล่าวว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในซีกโลกใต้สามารถมองไปที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันออกก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนหลังจากดาวหางเคลื่อนผ่านจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดไปแล้ว ควรลองมองไปที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันตกหลังพระอาทิตย์ตก
ดร.บาลาจีกล่าวเสริมว่า แม้ว่าจะคาดการณ์กันว่าดาวหางจะสว่างมาก แต่การคาดการณ์ความสว่างของดาวหางนั้นมีความไม่แน่นอนอย่างยิ่ง โดยหลายครั้งความสว่างจะจางกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก
สำหรับคนที่อยู่ในซีกโลกเหนือ รวมถึงประเทศไทย การสังเกตอาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างดาวหางกับดวงอาทิตย์
เรียบเรียงจาก BBC