ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า จะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิเตรียมความพร้อมเรือนจำกวนตานาโมในประเทศคิวบา เพื่อควบคุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวน 30,000 คน
ทรัมป์ระบุว่า เรือนจำกวนตานาโมมีเตียงนอน 30,000 เตียง รองรับอาชญากรต่างชาติที่เป็นภัยคุกคามต่อชาวอเมริกันซึ่งไม่ควรได้อยู่ในสหรัฐฯ อีก และคำสั่งนี้จะเพิ่มศักยภาพการควบคุมผู้อพยพผิดกฎหมายที่ถูกจับกุมได้อีก 2 เท่า
โดยเรือนจำแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และเคยถูกวิจารณ์ด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการทรมานผู้ต้องขัง
การเปิดเผยของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นระหว่างการลงนามบังคับใช้กฎหมาย "ลาเคน ไรลีย์" (Laken Riley) ซึ่งตั้งชื่อตามนักศึกษาพยาบาลของมหาวิทยาลัยออกัสตา ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งถูกฆาตกรรมเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้วโดยชายชาวเวเนซุเอลาที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางทุกคนจะต้องควบคุมตัวผู้อพยพที่ถูกจับ หรือถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมบางประเภท เช่น การขโมยของในร้านค้า หรือทำร้ายร่างกาย รวมทั้งให้อำนาจอัยการสูงสุดประจำรัฐต่าง ๆ ฟ้องร้องรัฐบาลกลาง ในกรณีละเลยหรือล้มเหลวในการบังคับใช้มาตรการด้านคนเข้าเมืองเพื่อป้องกันอันตรายต่อประชาชน
ขณะที่สมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตซึ่งคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ มองว่า บทบัญญัญัติเช่นนี้จะทำให้ผู้อพยพถูกจับและเนรเทศ โดยไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ในชั้นศาล
ในวันเดียวกัน ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ถอนบันทึกคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือและเงินกู้จากรัฐบาลกลางมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เกิดความสับสนเป็นวงกว้างในหมู่ชาวอเมริกันนับล้านคนที่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐบาลแล้ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากผู้พิพากษาศาลแขวงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระงับคำสั่งบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่ง ตามด้วยสำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) ออกบันทึกคำสั่งแจ้งเรื่องการบังคับใช้คำสั่ง
ด้าน แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การล้มเลิกการแช่แข็งเงินช่วยเหลือของรัฐบาลกลาง แต่เป็นการยกเลิกบันทึกคำสั่ง เพื่อยุติความสับสนที่เกิดขึ้นจากคำสั่งห้ามของศาล ส่วนคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศและโครงการส่งเสริมความเท่าเทียมยังมีผลบังคับใช้เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม เลวิตต์ไม่ได้เปิดเผยว่า สำนักงานงบประมาณของทำเนียบขาวจะบังคับใช้คำสั่งนี้อย่างไรเมื่อทรัมป์ตัดสินใจเพิกถอนบันทึกคำสั่งแล้ว และศาลมีคำสั่งห้ามเป็นการชั่วคราว
สำนักงานงบประมาณฯ ระบุว่า คำสั่งระงับเงินช่วยเหลือและเงินกู้จากรัฐบาลกลาง มีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลใหม่มีเวลาในการประเมินว่า โครงการใดบ้างที่สอดคล้องและไม่สอดคล้องกับนโยบายที่วางไว้