ทางการสหรัฐฯ รายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 รายหลังจากพายุฤดูหนาวรุนแรงพัดถล่มหลายพื้นที่ของประเทศ ในจำนวนนี้ 8 รายอยู่ในรัฐเคนทักกี ซึ่งเกิดฝนตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ
แอนดี เบเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี กล่าวเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ว่า ประชาชนหลายร้อยคนที่ติดอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมต้องได้รับการช่วยเหลือ และบอกว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงแม่และลูกวัย 7 ขวบ เสียชีวิตอยู่รถยนต์ที่ติดอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมสูง
“ดังนั้น ขอให้ทุกคนอย่าใช้ถนนในตอนนี้และอย่าประมาท นี่คือช่วงการค้นหาและกู้ภัย และผมภูมิใจมากที่ชาวเคนทักกีทุกคนที่ออกมาช่วยเหลือและเอาชีวิตเข้าเสี่ยง” เบเชียร์กล่าว
เขากล่าวว่า พายุทำให้บ้านเรือนประมาณ 39,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ และเตือนว่า ลมกระโชกแรงในบางพื้นที่อาจทำให้ไฟดับได้
ในพื้นที่อื่น ๆ ที่ราบทางตอนเหนือเผชิญกับความหนาวเย็นที่เป็นอันตรายถึงชีวิต และมีการออกคำเตือนพายุทอร์นาโดสำหรับพื้นที่บางส่วนของรัฐจอร์เจียและรัฐฟลอริดา
บ็อบ โอราเวก นักพยากรณ์อากาศอาวุโสของกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า พื้นที่บางส่วนของรัฐเคนทักกีและเทนเนสซีมีระดับฝนสูงถึง 6 นิ้ว (15 เซนติเมตร) ระหว่างพายุในช่วงสุดสัปดาห์
โอราเวกกล่าวเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ว่า “ผลกระทบจะดำเนินต่อไปอีกสักระยะ มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งและน้ำท่วมหลายครั้ง”
ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายจากต้นไม้ขนาดใหญ่มากล้มทับบ้านหลังหนึ่งเมื่อเช้าวันที่ 16 ก.พ.
ในขณะเดียวกัน คาดว่าจะมีหิมะตกหนักในบางส่วนของนิวอิงแลนด์และนิวยอร์กตอนเหนือ
นักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังจะเผชิญกับปรากฏการณ์กระแสลมจากขั้วโลกที่หนาวเย็นเป็นครั้งที่ 10 ในฤดูกาลนี้ โดยบริเวณเทือกเขาร็อกกีทางตอนเหนือและพื้นที่ราบทางตอนเหนือจะได้รับผลกระทบเป็นลำดับแรก
เรียบเรียงจาก Associated Press