รถบัส 3 คันในเมืองบาตยัม ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้เกิดระเบิดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 20 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น และพบอุปกรณ์ที่ยังไม่ระเบิดอยู่ในรถบัสอีก 2 คัน
ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุที่เกิดขึ้นป็นการก่อวินาศรรม และมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายในเขตเวสต์แบงก์
ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หนึ่งในวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดมีน้ำหนักถึง 5 กก. และมีข้อความเขียนว่าการแก้แค้นจากทุลคาเรม (Tulkarem) ซึ่งเป็นเมืองในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลดำเนินปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายไปก่อนหน้านี้
หลังเกิดเหตุไม่นาน อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ได้ออกคำสั่งให้กองทัพยกระดับปฏิบัติการตรวจค้นที่ค่ายผู้อพยพในเขตเวสต์แบงก์
เหตุการณ์นี้ยังทำให้กระทรวงคมนาคมของอิสราเอลออกคำสั่งหยุดเดินรถบัสโดยสาร รถไฟ และรถรางทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบว่ามีวัตถุระเบิดอยู่บนรถหรือไม่ โดยที่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 20 ก.พ. กลุ่มฮามาสได้ส่งคืนร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล 4 คนที่เสียชีวิต ประกอบไปด้วย โอเด็ด ลิฟชิตซ์ วัย 83 ปี, ชิรี บิบาส วัย 32 ปี และลูกทั้ง 2 คน คือ แอเรียล วัย 4 ขวบ และคเฟอร์ วัยเพียง 9 เดือน ซึ่งเป็นตัวประกันอิสราเอลที่อายุน้อยที่สุด อย่างไรก็ดี ต่อมามีรายงานว่าว่าที่ควรเป้นของชิรีนั้นไม่ใช่ร่างของเธอ
การส่งคืนศพในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ฮามาสดำเนินการส่งตัวประกันที่เสียชีวิตกลับสู่อิสราเอล หลังจากที่พวกเขาถูกกักขังในฉนวนกาซามานานกว่า 16 เดือน
ก่อนที่ศพของทั้ง 4 คนจะถูกส่งคืน กลุ่มฮามาสได้จัดพิธีเชิงสัญลักษณ์ขึ้นในเมืองข่านยูนิส โดยวางโลงศพสีดำ 4 โลงบนเวที ซึ่งด้านหลังของเวทีมีป้ายโฆษณาชวนเชื่อที่มีข้อความในภาษาอาหรับ ฮีบรู และ อังกฤษ หลังจากนั้น ศพทั้งหมดถูกส่งมอบให้กับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทหารของอิสราเอลที่ประจำการในฉนวนกาซา