เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เจ้าหน้าที่ระดับสูงในยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนได้ตกลงยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงแร่หายากที่สำคัญกับสหรัฐฯ แล้ว โดยระบุว่า “เราตกลงกันด้วยการแก้ไขเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ดีหลายประการและมองว่าเป็นผลลัพธ์เชิงบวก”
รายงานข่าวระบุว่า สหรัฐฯ ได้ยกเลิกข้อเรียกร้องเบื้องต้นสำหรับสิทธิ์ในการรับรายได้ 500,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 16.8 ล้านล้านบาท) จากการใช้แร่ยูเครน แต่ไม่ได้ให้การรับประกันความปลอดภัยอย่างแน่ชัดแก่ยูเครนที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องสำคัญ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขาคาดหวังว่า โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน จะเดินทางมาลงนามในข้อตกลงแร่ที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กล่าวถึงเซเลนสกีว่าเป็น “เผด็จการ” และดูเหมือนจะตำหนิยูเครน ไม่ใช่รัสเซีย ว่าเป็นฝ่ายเริ่มสงคราม หลังจากผู้นำยูเครนปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อตกลงแร่หายาก
ทรัมป์พยายามผลักดันให้มีการเข้าถึงแร่หายากของยูเครนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหารและความช่วยเหลืออื่น ๆ
เซเลนสกีโต้แย้งว่า ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ไม่ได้มากมายขนาดนั้น และเสริมว่า “ผมไม่สามารถขายรัฐของเราได้”
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือยูเครน 300,000-350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10-11.8 ล้านล้านบาท)
“เราต้องการเงินคืน เรากำลังช่วยเหลือประเทศให้ผ่านพ้นปัญหาใหญ่... แต่ตอนนี้ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันจะได้รับเงินคืนด้วย” ทรัมป์กล่าว
ด้าน โอลฮา สเตฟานิชินา รองนายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวกับ Financial Times ซึ่งรายงานข้อตกลงแร่เป็นสื่อแรกว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็น “เพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมเท่านั้น”
สเตฟานิชินากล่าวว่า “เราได้ยินหลายครั้งจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมที่ใหญ่กว่า”
ตามแหล่งข่าวจากยูเครน สหรัฐฯ ต้องถอนข้อเรียกร้องที่หนักหน่วงบางประการ
อย่างไรก็ตาม ได้มีการวางบรรทัดฐานไว้แล้ว ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในยุคของทรัมป์มีเงื่อนไขผูกมัด ความช่วยเหลือแลกการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรมหรือยุทธศาสตร์ ก็เป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว
ยูเครนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คาดว่าทรัมป์และทีมนโยบายต่างประเทศของเขาจะนำหลักการ “อเมริกาต้องมาก่อน” ไปปรับใช้กับความช่วยเหลือทั่วโลกในช่วง 4 ปีข้างหน้า
เว็บไซต์ข่าวยูเครน Ukrainska Pravda รายงานว่า ข้อตกลงแร่หายากจะได้รับการลงนามโดย อันดรีย์ ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน และมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ
หน่วยงานเศรษฐกิจของเว็บไซต์ข่าว EP กล่าวว่าทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะจัดตั้งกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟูด้วย
ยูเครนมีแหล่งแร่และองค์ประกอบสำคัญจำนวนมหาศาล เช่น ลิเธียมและไทเทเนียม ตลอดจนถ่านหิน ก๊าซ น้ำมัน และยูเรเนียม ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า เขายินดีที่จะให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่หายาก ซึ่งรวมถึงแร่จากภูมิภาคยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองด้วย
เรียบเรียงจาก BBC
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
