เมื่อบ่ายวันที่ 6 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เกิดเหตุระทึกกับสายการบินเจ็ตสตาร์ (Jetstar) ซึ่งกำลังจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานอาวาลอนไปยังนครซิดนีย์
โดยระหว่างที่เครื่องบินซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 160 คนกำลังจะเตรียมขึ้นบิน จู่ ๆ มีชายคนหนึ่งวิ่งฝ่ารั้วรักษาความปลอดภัยมายังรันเวย์ แล้วปีนบันไดหน้าเครื่องบินขึ้นไปโดยคาดว่าต้องการบุกเข้าไปในเครื่องบิน
ลูกเรือและผู้โดยสารบางส่วนเข้าปะทะกับชายรายนี้และถูกจับกดลงกับพื้นใกล้ประตูเครื่อง และผู้ต้องสงสัยถูกผู้โดยสารควบคุมตัวไว้ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินและนักบินดึงเข็มขัดเครื่องมือที่ผู้ต้องสงสัยพกติดตัวออกไปเนื่องจากเกรงว่าจะพกวัตถุอันตรายไว้ นอกจากนี้ นักบินยังเตะปืนลูกซองที่ชายรายนี้พกมา
จากการเปิดเผยของตำรวจออสเตรเลียพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นชายอายุเพียง 17 ปี มาจากพื้นที่บัลลารัต เบื้องต้นถูกตั้งข้อหา 8 กระทง เช่น พยายามยึดเครื่องบินโดยผิดกฎหมาย ทำให้เที่ยวบินตกอยู่ในอันตราย และสร้างเรื่องหลอกลวงเกี่ยวกับระเบิด ฯลฯ
ตำรวจกล่าวว่าต้องนำผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดเข้ามาตรวจค้นรถยนต์ 1 คันและกระเป๋า 2 ใบซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง
ด้านผู้กำกับการตำรวจ ไมเคิล รีด กล่าวว่า ผู้โดยสารสังเกตเห็นวัยรุ่นคนดังกล่าวพกปืนขณะเดินขึ้นบันไดไปยังเครื่องบิน “ชายคนดังกล่าวจึงถูกผู้โดยสาร 3 คนรุมปะทะ”
รีดกล่าวว่า กองกำลังท้องถิ่นได้ประสานกับตำรวจปราบปรามการก่อการร้ายแล้ว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุแรงจูงใจได้ว่ามาจากสาเหตุใด
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุการณ์นี้คงเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งสำหรับผู้โดยสาร” รีดกล่าว พร้อมชื่นชม “ความกล้าหาญ” ของผู้โดยสารที่ช่วยกันคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้
แบร์รี คลาร์ก หนึ่งในผู้โดยสาร กล่าวว่า วัยรุ่นคนดังกล่าวดูเหมือนจะแต่งตัวเหมือนพนักงานสนามบิน และ “มีท่ทาทีหงุดหงิด”
ท่าอากศยานอาวาลอนระบุว่า กำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบสวนเหตุการณ์นี้ “เรารู้ว่านี่เป็นสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลมาก เราขอขอบคุณลูกค้าอย่างจริงใจที่ช่วยเหลือลูกเรือของเราในการจัดการสถานการณ์นี้อย่างปลอดภัย”
เรียบเรียงจาก BBC