เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) สื่อเกาหลีเหนือที่เป็นของรัฐ ได้เปิดเผยภาพตัวเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นครั้งแรก โดยระบบอาวุธดังกล่าวอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
KCNA รายงานว่า ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ได้เดินทางไปเยี่ยมชมอู่ต่อเรือสำคัญ ๆ ที่สร้างเรือรบ พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายที่เรียกว่า “เรือดำน้ำขีปนาวุธนำวิถีเชิงยุทธศาสตร์พลังงานนิวเคลียร์”
KCNA ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรือดำน้ำลำดังกล่าว แต่ระบุว่า ผู้นำคิมได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับการก่อสร้างแล้ว
ด้าน มุน กึนซิก ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือดำน้ำของเกาหลีใต้ จากมหาวิทยาลัยฮันยางในกรุงโซล กล่าวว่า เรือรบลำดังกล่าวน่าจะเป็นเรือขนาด 6,000 หรือ 7,000 ตัน ซึ่งสามารถบรรทุกขีปนาวุธได้ประมาณ 10 ลูก เขากล่าวว่า การใช้คำว่า “ขีปนาวุธนำวิถีเชิงยุทธศาสตร์” หมายความว่า “เรือลำดังกล่าวจะบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ได้”
มุนกล่าวว่า “มันจะคุกคามเราและสหรัฐฯ อย่างแน่นอน”
เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เป็นหนึ่งในรายการอาวุธล้ำสมัยที่คิมให้คำมั่นว่าจะนำมาใช้เพื่อรับมือกับสิ่งที่เขาเรียกว่าภัยคุกคามทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยังพัฒนาอาวุธอื่น ๆ ได้แก่ ขีปนาวุธข้ามทวีปที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง อาวุธความเร็วเหนือเสียง ดาวเทียมสอดแนม และขีปนาวุธหลายหัวรบ
การที่เกาหลีเหนือมีความสามารถในการยิงขีปนาวุธจากใต้น้ำได้ดีขึ้นถือเป็นพัฒนาการที่น่ากังวล เพราะจะทำให้ศัตรูของเกาหลีเหนือไม่สามารถตรวจจับการยิงดังกล่าวได้ล่วงหน้า
มุนกล่าวว่า เกาหลีเหนืออาจได้รับความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีจากรัสเซียในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อใช้ในเรือดำน้ำ เพื่อแลกกับการจัดหาอาวุธและกำลังพลแบบธรรมดาเพื่อสนับสนุนความพยายามทำสงครามของรัสเซียกับยูเครน
เขายังกล่าวอีกว่า เกาหลีเหนืออาจปล่อยเรือดำน้ำลำนี้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้าเพื่อทดสอบความสามารถก่อนจะนำไปใช้จริง
ระหว่างการเยือนอู่ต่อเรือ คิมกล่าวว่า เกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงเรือรบบนผิวน้ำและใต้น้ำให้ทันสมัยในเวลาเดียวกัน
เขาย้ำถึงความจำเป็นในการทำให้ “เรือรบขนาดใหญ่ที่เทียบเคียงกันไม่ได้นั้นต้องบรรลุภารกิจ” เพื่อควบคุม “การทูตแบบเรือปืน (Gunboat Diplomacy) ที่ฝังรากลึกของกองกำลังศัตรู”
เรียบเรียงจาก CNN