กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่า สามารถยึดพื้นที่ในภูมิภาคเคิร์สก์คืนจากกองทัพยูเครนได้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 รวมทั้งสามารถยึดคืนหมู่บ้านได้เพิ่มอีก 3 แห่ง
ขณะที่ข้อมูลของดีปสเตท เว็บไซต์ติดตามความเคลื่อนไหวทางการทหารที่เชื่อมโยงกับกองทัพยูเครน ระบุว่า รัสเซียสามารถเจาะแนวป้องกันของยูเครนใกล้เมืองซุดซา (Sudzha) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน และตัดขาดเส้นทางส่งกำลังบำรุงที่จำเป็น
นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทหารรัสเซียกลุ่มเล็ก ๆ หลายหน่วยยังระดมโจมตีเข้าไปในภูมิภาคซูมีของยูเครนที่อยู่ติดกับภูมิภาคเคิร์สก์ โดยรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันระบุว่าทหารยูเครนจำนวนหนี่งได้ถูกจับตัวไป
อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงควบคุมพื้นที่อย่างน้อย 400 ตารางกิโลเมตรในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ลดลงจากในช่วงแรกที่ทหารยูเครนยึดพื้นที่ได้ 1,300 ตารางกิโลเมตรหลังจากบุกข้ามแดนเข้าไปเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว
ด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุว่า ต้องการใช้ภูมิภาคเคิร์สก์ เป็นเครื่องมือต่อรองและบีบรัสเซียให้ถอนกำลังออกจากอาณาเขตทางตะวันออกของยูเครน
อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนยอมรับว่า การรักษาพื้นที่ยึดครองในภูมิภาคเคิร์สก์กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยรัสเซียได้ส่งทหารเกาหลีเหนือเข้ามาเสริมกำลังรบในพื้นที่เพิ่มเติม รวมทั้งเปิดฉากการจู่โจมครั้งใหญ่ระลอกใหม่หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระงับให้ความช่วยเหลือยูเครนในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการมอบอาวุธ ข่าวกรอง และภาพถ่ายดาวเทียม
ขณะที่ ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียอ้างว่า กองกำลังยูเครนใกล้ที่จะถูกทหารรัสเซียปิดล้อมและจะต้องถอยร่นออกไปจากภูทิภาคเคิร์สก์ในอนาคตอันใกล้