เหตุการณ์ระทึกนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา บริเวณปากแม่น้ำฮัมเบอร์ ใกล้กับเมืองฮัลล์ และ กริมส์บี ประเทศอังกฤษ เมื่อเรือขนตู้คอนเทนเนอร์ติดธงโปรตุเกสที่ชื่อว่า "โซลอง" (Solong) ได้ชนเข้ากับเรือบรรทุกน้ำมัน "สเตนา อิมมาคิวเลท" (Stena Immaculate) ที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเลเหนือ ห่างจากชายฝั่งอังกฤษไปทางตะวันออก 10 ไมล์ หรือประมาณ 16 กิโลเมตร
โดยเรือโซลอง ได้ออกเดินทางจากท่าเรือในสกอตแลนด์ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ เพื่อเดินทางไปยังเมืองรอตเตอร์ดาม ในประเทศเนเธอร์แลนด์
บริษัท "เอิร์นสท์ รัสส์" (Ernst Russ) เจ้าของเรือโซรองซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่าเรือทั้ง 2 ลำได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเกิดไฟลุกท่วม แต่ผู้อยู่บนเรือ 13 คน จากทั้งหมด 14 คน ได้ถูกนำตัวขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหน่วยยามชายฝั่งของอังกฤษได้ยุติการค้นหาผู้อยู่บนเรือที่ยังคงสูญหายแล้ว ส่วนบริษัทขนส่ง "ครอว์ลีย์" (Crowley) ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารเรือ "สเตนา อิมมาคิวเลท" ยืนยันว่าลูกเรือทุกคนปลอดภัย ขณะที่มีรายงานว่าผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้มีจำนวน 36 คน
ขณะที่ทีมโฆษกสำนักงานขนส่งด้านการทหารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่าขณะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เรือ "สเตนา อิมมาคิวเลท" กำลังบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินและเรือเดินสมุทร โดยมีจุดหมายคือเมือง "คิลลิงโฮล์ม" (Killingholme) ของอังกฤษ
แต่ข้อกังวลมากที่สุดสำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้คือการรั่วไหลของสารเคมีอันตราย เนื่องจากพบข้อมูลว่าสินค้าทื่เรือ "โซลอง" บรรทุกมาด้วยมีทั้งแอลกอฮอลล์ไม่ทราบปริมาณและโซเดียมไซยาไนด์ (Sodium Cyanide)อีก 15 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุว่า โซเดียมไซยาไนด์ สามาถเปลี่ยนเป็นไฮโดรเจน ไซยาไนด์ (Hydrogen Cyanide) เมื่อสัมผัสกับน้ำ
ขณะที่สถาบันสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงานของสหรัฐฯ ระบุว่า ก๊าซไฮโดรเจน ไซยาไนด์ เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง ซึ่งหากเข้าสู่ร่างกาย จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการใช้อ็อกซิเจน
ส่วนสถานการณ์ในช่วงเช้าวันที่ 11 มีนาคมตามเวลาประเทศไทย ไฟยังคงลุกไหม้บนเรือสเตนา อิมมาคิวเลทโดยเจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งของอังกฤษกล่าวว่า ยังคงพบลูกเรือ 1 รายสูญหาย และการค้นหาถูกยกเลิกแล้ว โดยหนึ่งในชายที่อยู่บนเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวเผยว่า เรือโซลอง พุ่งชนกับเรือสเตนา อิมมาคิวเลท ด้วยความเร็ว 16 น็อตโดยไม่ทราบสาเหตุ
ขณะที่การช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยของหน่วยยามฝั่งไปยังที่เกิดเหตุ รวมถึงเรือชูชีพ 4 ลำและเรือดับเพลิงที่อยู่ใกล้เคียง
ไมเคิล แพเตอร์สัน กรรมการผู้จัดการบริษัทโลจิสติกส์ Svitzer กล่าวว่า “น้ำมันและเชื้อเพลิงเป็นปัญหาสำหรับพวกเขา เห็นได้ชัดว่านอกจากจะติดไฟได้ ยังมีควันและสารพิษด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือ การช่วยเหลือลูกเรือ ส่วนตัวเคยเห็นเหตุการณ์ร้ายแรงมาบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด”
หน่วยงานสอบสวนอุบัติเหตุทางทะเลกล่าวว่า ทีมผู้ตรวจสอบและเจ้าหน้าที่สนับสนุนได้เริ่มรวบรวมหลักฐานและกำลังดำเนินการประเมินเบื้องต้นเพื่อกำหนดขั้นตอนต่อไป
ที่มา: BBC / Reuters / Seatrade Maritime