เมื่อเย็นวันที่ 18 มี.ค. เอกสารลับหลายหมื่นหน้าที่เกี่ยวข้องกับคดีการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือเจเอฟเค ได้ถูกเปิดเผยตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
โดยเอกสารมากกว่า 1,100 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วยหน้ากระดาษมากกว่า 31,000 หน้า ถูกโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงานจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเดิมทีมีเอกสาร ภาพถ่าย วิดีโอ บันทึกเสียง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารเจเอฟเคจำนวนกว่า 6 ล้านหน้าที่ได้รับการเปิดเผยไปแล้วเกือบทั้งหมด
ทรัมป์ประกาศข่าวนี้เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ขณะเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะการแสดง จอห์น เอฟ. เคนเนดี ในกรุงวอชิงตัน โดยระบุว่า รัฐบาลของเขาจะเปิดเผยเอกสารประมาณ 80,000 หน้า “เรามีเอกสารจำนวนมหาศาล คุณจะมีหนังสือให้อ่านมากมาย”
สำนักงานจดหมายเหตุแห่งชาติระบุบนเว็บไซต์ว่า ตามคำสั่งของประธานาธิบดี การเปิดเผยเอกสารจะครอบคลุม “บันทึกทั้งหมดที่เคยถูกกันไว้เป็นข้อมูลลับ”
แลร์รี เจ. ซาบาโต ผู้อำนวยการศูนย์การเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียและผู้เขียนหนังสือเรื่อง “The Kennedy Half-Century” กล่าวว่า เขาได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบเอกสารเหล่านี้แล้ว แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าที่เอกสารเหล่านี้จะมีความหมายชัดเจน
“เรามีงานอีกมากมายที่ต้องทำในอนาคตอันยาวนาน และผู้คนต้องยอมรับสิ่งนี้” เขากล่าว
นักวิจัยประเมินว่า มีเอกสารประมาณ 3,000 ฉบับที่ยังไม่ได้เปิดเผย ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน และเมื่อเดือนที่แล้ว เอฟบีไอกล่าวว่าได้ค้นพบเอกสารใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประมาณ 2,400 ฉบับ
หลายคนที่ศึกษาสิ่งที่รัฐบาลเปิดเผยจนถึงขณะนี้กล่าวว่า ประชาชนไม่ควรคาดหวังว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกตะลึงใด ๆ จากเอกสารที่เพิ่งเปิดเผย แต่ยังคงมีความสนใจอย่างมากในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง
เคนเนดีถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 1963 ขณะเดินทางเยือนดัลลาส ขณะที่ขบวนรถของเขากำลังจะสิ้นสุดเส้นทางเดินพาเหรดในตัวเมือง เสียงปืนก็ดังขึ้นจากอาคาร Texas School Book Depository และตำรวจสามารุจับกุม ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ วัย 24 ปี ได้ แต่ 2 วันต่อมา แจ็ก รูบี เจ้าของไนต์คลับ ได้ยิงออสวอลด์เสียชีวิตระหว่างการย้ายตัวไปเรือนจำ
1 ปีหลังการลอบสังหาร คณะกรรมการสืบสวนได้สรุปว่า ออสวอลด์ลงมือคนเดียวและไม่มีหลักฐานใด ๆ บ่งชี้ว่ามีการสมคบคิดเกิดขึ้น แต่เรื่องนี้ไม่ได้ยุติทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้กำหนดให้เก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารเจเอฟเคทั้งหมดไว้ในสำนักงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ โดยกำหนดให้ต้องเปิดเผยเอกสารดังกล่าวภายในปี 2017 ยกเว้นมีข้อยกเว้นที่ประธานาธิบดีกำหนด
เอกสารประมาณ 500 ฉบับ รวมทั้งแบบแสดงรายการภาษี ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลในปี 2017
ทรัมป์ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเป็นวาระแรกในปี 2017 กล่าวว่าเขาจะอนุญาตให้เปิดเผยเอกสารที่เหลือทั้งหมด แต่สุดท้ายกลับกักเก็บบางส่วนไว้เนื่องจากมีเอกสารบางรายที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ และในขณะที่เอกสารต่าง ๆ ยังคงถูกเปิดเผยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่ง แต่เอกสารบางส่วนยังคงไม่ได้รับการเปิดเผย
เรียบเรียงจาก Associated Press