สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี นอกจากการหารือกันเรื่องแนวทางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนแล้ว ทรัมป์ยังยื่นข้อเสนอว่า สหรัฐฯ สามารถเป็นเจ้าของและดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนได้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้โรงไฟฟ้าถูกโจมตี
เซเลนสกีกล่าวว่า มีการหารือเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จริง
“เราพูดคุยกันแค่โรงไฟฟ้าหนึ่งแห่งเท่านั้น ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย” เซเลนสกีบอก โดยอ้างถึงโรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ด้าน ไมค์ วอลต์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงร่วมกันว่า “ทรัมป์ได้หารือเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และแหล่งจ่ายไฟฟ้าของยูเครน และกล่าวว่า สหรัฐฯ สามารถ ‘ให้ความช่วยเหลือ’ อย่างมากในการดำเนินการโรงไฟฟ้าเหล่านี้ได้”
แถลงการณ์ร่วมระบุว่า “การที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าเหล่านี้ถือเป็นการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุด”
ทรัมป์ยังให้คำมั่นว่า จะช่วยให้ยูเครนได้รับอุปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมจากยุโรป และจะค้นหาเด็กยูเครนที่ถูกรัสเซียลักพาตัวไปด้วย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์บน Truth Social ว่า ความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเต็มรูปแบบนั้น “กำลังดำเนินไปได้อย่างราบรื่น”
เซเลนสกีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของยูเครนและสหรัฐฯ อาจพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อเจรจารอบใหม่ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทีมของรัสเซียและสหรัฐฯ จะพบกันในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเช่นกัน
เรียบเรียงจาก France24