ในตอนนี้เที่ยวบินบางเที่ยวบินเริ่มกลับมาลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษได้อีกครั้งตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยใกล้เคียง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างและทำให้ก่อนหน้านี้สนามบินฮีทโธรว์ประกาศปิดให้บริการจนถึงเที่ยงคืนวันศุกร์ เครื่องบินโดยสาร จอดนิ่งบนรันเวย์ของศูนย์กลางการบินที่พลุกพล่านที่สุดของยุโรป ก่อให้เกิดความโกลาหลและกระทบกับการเดินทางของผู้โดยสารหลายพันคนทั่วโลก
สายการบินบริติช แอร์เวย์สของอังกฤษ เปิดเผยว่า เที่ยวบินระยะไกล 8 เที่ยวบินของสายการบินได้รับอนุญาตให้ออกเดินทางจากเมืองต่าง ๆ เช่น โยฮันเนสเบิร์ก สิงคโปร์และริยาด มาลงจอดที่สนามบินฮีทโธรว์ อีกครั้ง ตั้งแต่เวลาประมาณอ 2 นาฬิกาที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย
ขณะที่กระทรวงคมนาคมของอังกฤษยกเลิกข้อจำกัดสำหรับเที่ยวบินข้ามคืนเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความแออัด
เดิม สนามบินแห่งนี้ ต้องรองรับเที่ยวบิน จำนวน 1,351 เที่ยวบิน ซึ่งรวมถึง ผู้โดยสาร 291,000 คน ในวันเกิดเหตุ แต่เที่ยวบินของสายการบินต่าง ๆ ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดยังสนามบินแห่งอื่นในอังกฤษ และทั่วยุโรปแทน ส่วนเที่ยวบินระยะไกลจำนวนมากต้องวกกลับไปลงจอดที่สนามบินต้นทาง
สนามบินฮีทโธรว์ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จะให้บริการเที่ยวบินจำนวนจำกัดในวันศุกร์ โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การย้ายเครื่องบินและให้เที่ยวบินที่มุ่งหน้ามายังกรุงลอนดอน ลงจอด แต่คาดการณ์ว่า จะสามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติ 100 เปอร์เซ็นต์อีกครั้งในวันเสาร์นี้
ตำรวจอังกฤษ ระบุว่า จากการประเมินเบื้องต้น ไม่พบความน่าสงสัย แต่จะยังสอบสวนต่อไป ส่วนหน่วยดับเพลิงลอนดอน เปิดเผยว่า การสอบสวนจะมุ่งเน้นไปที่อุปกรณ์จ่ายไฟฟ้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน เปิดเผยว่า ครั้งสุดท้ายที่สนามบินในยุโรป เผชิญปัญหาขัดข้องในระดับใหญ่ขนาดนี้ คือ ในปี 2010 หลังภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ปะทุรุนแรงและส่งเถ้าถ่านหนาทึบพวยพุ่งขึ้นไปบนอากาศ ทำให้เที่ยวบินกว่า 100,000 เที่ยวบินต้องหยุดให้บริการ