สหรัฐฯ จับผู้โดยสารใจโหด พาสุนัขขึ้นเครื่องบินไม่ได้ จึงจับมันกดน้ำจนตาย

ที่สหรัฐฯ มีข่าวที่อาจทำให้เหล่าทาสหมาพากันส่งเสียงสาปแช่ง เมื่อหญิงรายหนึ่งก่อเหตุจับสุนัขของตัวเองกดน้ำจนตายในสนามบิน เนื่องจากไม่สามารถพาสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นเครื่องบินไปด้วยได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2024 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งจับกุมตัวเธอได้เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่มณฑลเลคเคาน์ตี รัฐอิลลินอยส์ และถูกตั้งข้อหาทารุณกรรม สัตว์ แต่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 169,000 บาท)

AFP/MIGUEL J. RODRIGUEZ CARRILLO/GETTY IMAGES NORTH AMERICA

ที่มาที่ไปของเรื่องนี้คือ หญิงรายนี้กำลังจะเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติออร์แลนโด ในรัฐฟลอริดา เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย ด้วยสายการบินลาตัมแอร์ไลน์ส (Latam Airlines) โดยนำสุนัขพันธุ์มิเนเจอร์ชเนาเซอร์สีขาวอายุ 9 ขวบชื่อ “ไทวินน์” (Tywinn) ไปด้วย

แต่เธอไม่ได้ยื่นเรื่องเอกสารขออนุญาตพาสุนัขเดินทางไปด้วยอย่างถูกต้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ของสายการบินปฏิเสธไม่ให้เธอขึ้นเครื่อง

ตามรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ สุนัขที่จะเดินทางจากสหรัฐฯ ไปยังโคลอมเบีย จะต้องมีใบรับรองสุขภาพที่ออกโดยสัตวแพทย์และใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาด้วย ซึ่งในกรณีนี้ไม่มี

ผู้โดยสารหญิงรายนี้จึงตัดสินกระทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย คือพาสุนัขเข้าไปในห้องน้ำ แล้วจับมันกดน้ำจนตาย ก่อนจะเดินขึ้นเครื่องบินสบายใจเฉิบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กล้องวงจรปิดที่สนามบินจับภาพก่อนเกิดเหตุได้ เห็นผู้หญิงคนดังกล่าวพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินลาตัมนาน 15 นาที พร้อมกับสุนัขตัวดังกล่าว จากนั้นเธอจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำใกล้กับบริเวณจำหน่ายตั๋วพร้อมกับสุนัข และไม่ถึง 20 นาทีต่อมาได้ออกจากห้องน้ำโดยไม่มีไทวินน์มาด้วย

จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็ออกไปนอกอาคารผู้โดยสาร แล้วกลับเข้ามาอีกครั้งในเวลาไม่นาน ผ่านการตรวจรักษาความปลอดภัย และขึ้นเครื่องบินที่มุ่งหน้าไปโคลอมเบีย

เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเป็นผู้พบร่างของไทวินน์ในถุงขยะในห้องน้ำ ซึ่งได้ให้การณ์ว่า เห็นผู้หญิงคนดังกล่าวกำลังทำความสะอาดน้ำและอาหารสุนัขบนพื้นของห้องน้ำ แต่เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดถูกเรียกตัวไปทำความสะอาดฉุกเฉินที่อื่น และกลับมาที่ห้องน้ำอีกครั้งหลังจากนั้น 20 นาที และพบไทวินน์อยู่ในถังขยะ

เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดพบร่างของไทวินน์พร้อมกับเสื้อกั๊ก ปลอกคอ ป้ายรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า กระเป๋าเดินทางสำหรับสุนัข และป้ายชื่อที่มีชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของผู้หญิงเจ้าของสุนัข

เจ้าหน้าที่ได้ระบุตัวตนของสุนัขตัวนี้ได้จากไมโครชิปที่ฝังไว้ และผลการชันสูตรพลิกศพระบุว่า ไทวินน์จมน้ำตาย นอกจากนี้ สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ ยังยืนยันกับตำรวจว่า ผู้โดยสารหญิงที่ก่อเหตุได้ขึ้นเครื่องบินไปยังโบโกตา โคลอมเบีย จากนั้นจึงบินต่อไปยังเอกวาดอร์

ตำรวจออร์แลนโดระบุว่า “การกระทำนี้เป็นการกระทำโดยเจตนาและส่งผลให้สุนัขตายอย่างทารุณและไม่จำเป็น”

 

เรียบเรียงจาก Associated Press