ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเมียนมาของ "ไครซิส กรุ๊ป" (Crisis Group) องค์กรระหว่างประเทศด้านวิจัยและวิเคราะห์วิกฤตการณ์ ระบุว่า พื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวหลายแห่งในเมียนมายังได้รับความช่วยเหลือที่จำกัดจากรัฐบาลทหาร ทั้งที่มีการเรียกระดมกำลังเจ้าหหน้าที่ท้องถิ่นทั้งหน่วยดับเพลิง รถพยาบาล และองค์กรชุมชน
นอกจากนี้ แม้กลุ่มต่อต้านบางกลุ่มจะระงับการสู้รบไปแล้ว แต่พบว่าการปะทะกันยังคงเกิดขึ้น โดยรัฐบาลทหารยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ รวมถึงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
เช่นเดียวกับ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) หนึ่งในกลุ่มติดอาวุธเก่าแก่ของเมียนมาที่ออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลทหารยังไม่หยุดการโจมตีในพื้นที่พลเรือน แม้แผ่นดินไหวได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชน
ส่วนสถานการณ์ด้านการให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมาในเวลานี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,700 รายแล้ว โดยยังประสบปัญหาในหลาย ๆ ด้าน โดยสหประชาชาติกล่าวว่าการขาดแคลนเวชภัณฑ์อย่างรุนแรงกำลังเป็นอุปสรรค์ต่อความพยายามในการบรรเทาทุกข์
ขณะที่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า โรงพยาบาลในภาคกลางและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา กำลังประสบปัญหาในการรับมือกับผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
นอกจากนี้ โรงพยาบาลเองยังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายอย่างหนัก ซึ่งองค์กรระหว่างประเทศกำลังเตรียมส่งทีมผ่าตัดและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ รวมถึงโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้การรักษาอย่างเร่งด่วน
ผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติได้จัดสรรงบประมาณ 5 ล้านดอลลาร์จากกองทุนตอบสนองเหตุฉุกเฉินกลาง เพื่อสนับสนุนความพยายามในการตอบสนองเร่งด่วน
องค์กรบรรเทาทุกข์กังวลว่า ความช่วยเหลืออาจยังไม่ถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยคาดว่ามีประชากรราว 20 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเมียนมา
ถนนที่เสียหาย เครือข่ายการสื่อสารไม่เสถียร และสงครามระหว่างรัฐบาลทหารและฝ่ายต่อต้าน ล้วนเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการค้นหาและกู้ภัย
ขณะเดียวกัน ความช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ ทั้งสิ่งของบรรเทาทุกข์หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังทยอยมาถึงเมียนมาอย่างต่อเนื่อง
ทีมค้นหาและกู้ภัยจำนวน 51 คน จากฮ่องกงได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 มี.ค. เพื่อช่วยเหลือภารกิจบรรเทาภัยพิบัติ โดยทีมกู้ภัยฮ่องกงประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคง สำนักงานบริการดับเพลิงฮ่องกง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และองค์การโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังนำสุนัขค้นหามาด้วย 2 ตัว
ส่วนทีมกู้ภัยรัสเซียได้เดินทางมาถึงกรุงเนปิดอว์แล้วในวันเดียวกัน พร้อมกับโรงพยาบาลเคลื่อนที่ และจะเดินทางไปยังเมืองมัณฑะเลย์ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว
เพื่อนบ้านอาเซียนอย่างเวียดนาม ระบุว่ากองทัพเวียดนามจะส่งกองกำลังบรรเทาทุกข์ 79 นาย พร้อมสิ่งของจำเป็น เวชภัณฑ์ สุนัขดมกลิ่น 6 ตัว และความช่วยเหลือมนุษยธรรม 60 ตัน เพื่อช่วยเหลือในภารกิจตอบสนองแผ่นดินไหว
ขณะที่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซียประกาศว่า มาเลเซียจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมามูลค่า 10 ล้านริงกิต หรือราว 76 ล้านบาท
การประกาศนี้มีขึ้นหลังจากทีมช่วยเหลือและกู้ภัยพิเศษแห่งชาติของมาเลเซียจำนวน 50 คน ได้ออกเดินทางสู่กรุงเนปิดอว์เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เพื่อช่วยเหลืองานด้านมนุษยธรรมและกู้ภัย
ด้าน สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการระดมทุน 100 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 3,840 ล้านบาท เพื่อเป็นการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวเมียนมา 100,000 คน หรือ 20,000 ครัวเรือน
แถลงการณ์ของ IFRC ระบุด้วยว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวจะครอบคลุมระยะเวลา 24 เดือน และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภัยพิบัติทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ซับซ้อน ซึ่งทับซ้อนอยู่บนความเปราะบางอีกหลายประการ เนื่องจากเมียนมายังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่เปราะบาง ทั้งการพลัดถิ่นภายในประเทศ และการขาดความมั่นคงทางอาหาร
ขณะที่เมื่อวันที่ 30 มี.ค. สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ หรือ USGS ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 ที่ระดับความลึกใต้ทะเล 10 กิโลเมตร ห่างจากเมืองปันไกของตองกา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 90 กิโลเมตร เมื่อเวลา 12.18 น. ตามเวลามาตรฐานสากล หรือ 19.18 น. ตามเวลาในประเทศไทย
หลังเกิดเหตุ ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกเตือนภัยการเกิดสึนามิ ภายในรัศมี 300 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ก่อนถูกยกเลิกไป โดยจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการยืนยันความเสียหายอย่างเป็นทางการ
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ต่างประเทศ
- วิดีโอยอดนิยม
