“คาลิล อัล-ฮัยยา” (Khalil Al-Hayya) ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและหัวหน้าทีมเจรจา แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่ากลุ่มจะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวอีกต่อไป ถือเป็นการแสดงจุดยืนที่อิสราเอลไม่น่าจะยอมรับและอาจทำให้การยุติปฏิบัติการโจมตีในฉนวนกาซาที่กลับมาทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องล่าช้าออกไป
ฮามาส พร้อมที่จะเข้าสู่การเจรจาแบบครอบคลุมทันที เพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกันที่เหลืออยู่ทั้งหมด
และเพื่อแลกกับการยุติสงครามในฉนวนกาซา การปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในอิสราเอลและการฟื้นฟูดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม
“อัล-ฮัยยา” ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูและรัฐบาลใช้ข้อตกลงที่แยกออกเป็นส่วน ๆ เป็นเครื่องมือปกปิดวาระทางการเมืองของตัวเองที่มีเป้าหมายในการเดินหน้าทำสงครามและบีบให้ผู้คนเผชิญความอดยาก แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของตัวประกันทั้งหมด ซึ่งฮามาสจะไม่ยอมมีส่วนร่วมในการผลักดันนโยบายนี้อย่างแน่นอน
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ผู้ไกล่เกลี่ย อย่าง อียิปต์ พยายามฟื้นฟูข้อตกลงหยุดยิงที่ฮามาสและอิสราเอลเห็นชอบร่วมกันและมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เปิดทางให้มีการปล่อยตัวประกัน 38 คน และการยุติการสู้รบเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนหน้าที่ข้อตกลงดังกล่าวจะล่มลงในเดือนที่แล้ว โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายที่ทำให้ข้อตกลงสิ้นสุดลง
ขณะที่ การเจรจารอบล่าสุด ที่จัดขึ้นในกรุงไรโคของอียิปต์ เมื่อวันจันทร์ เพื่อฟื้นฟูการหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน สิ้นสุดลงโดยไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
อิสราเอล เสนอยุติการสู้รบ 45 วันในฉนวนกาซา เพื่อปูทางให้มีการปล่อยตัวประกันและเริ่มต้นการเจรจาทางอ้อมเพื่อยุติสงคราม แต่ฮามาสได้ปฏิเสธหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ การวางอาวุธ โดยระบุว่า อิสราเอลยื่นข้อเสนออันเต็มไปด้วยเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้
ขณะที่อิสราเอล ระบุว่า ปฏิบัติการรุกคืบของกองทัพจะดำเนินต่อไปจนกว่าตัวประกันอีก 59 คนจะได้รับอิสระ และจนกว่ากาซาจะเป็นพื้นที่ปลอดกลุ่มติดอาวุธอย่างสิ้นเชิง แต่ฮามาสยืนกรานว่าจะปล่อยตัวประกันก็ต่อเมื่อมีการบรรลุข้อตกลงยุติสงคราม และปฏิเสธที่จะวางอาวุธตามข้อเรียกร้องของอิสราเอล
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้เปลี่ยนพื้นที่ 30 เปอร์เซ็นต์ของฉนวนกาซาให้กลายเป็นแนวกันชนแล้ว และให้คำมั่นจะป้องกันไม่ให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามาในพื้นที่ต่อไป ท่ามกลางการเดินหน้าโจมตีหลายพื้นที่ของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมอย่างต่อเนื่อง หลังกลับมาเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและทางบกอีกครั้ง หลังยุติข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 18 มี.ค.