ทำไม “นครรัฐวาติกัน” มีสถานะเป็นประเทศ แยกต่างหากจากอิตาลี?

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ย้อนอดีต “นครรัฐวาติกัน” ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก ทำไมถึงมีสถานะเป็นประเทศในปัจจุบัน? ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอิตาลีหรือไม่?

“นครรัฐวาติกัน” คือชื่อของประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีพื้นที่เพียง 0.49 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ตั้งอยู่ภายในกรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลี นั่นหมายความว่า หากใครไปที่กรุงโรม และเข้าไปในเขตนครรัฐวาติกัน เท่ากับว่ากำลังจะออกจากอิตาลีและเข้าสู่ประเทศใหม่

นครรัฐวาติกันยังผลิตเงินของตัวเอง มีธงของตัวเอง พิมพ์แสตมป์ของตัวเอง และมีแม้แต่เพลงชาติของตัวเอง และเป็นประเทศเดียวในโลกที่ “ปิดทำการ” ในเวลากลางคืน

คอนเทนต์แนะนำ
“พระคาร์ดินัลเควิน ฟาร์เรลล์” ผู้ดูแลวาติกันระหว่างรอโป๊ปองค์ใหม่
สำนักวาติกันเผยสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
พิธีศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะเรียบง่าย และต่างจากโป๊ปพระองค์อื่น

ทำไม “นครรัฐวาติกัน” มีสถานะเป็นประเทศ แยกต่างหากจากอิตาลี? AFP/FILIPPO MONTEFORTE
ภาพมุมสูงนครรัฐวาติกัน

นครรัฐวาติกันมีประชากรไม่ถึง 1,000 คน โดยมีพระสันตะปาปาเป็นประมุข และเป็นประเทศที่มีกองทัพที่เล็กที่สุดในโลกอีกด้วย มีเพียงทหารรักษาพระองค์ 110 นายที่ต้องผ่านกระบวนการฝึกฝนและการคัดเลือกที่เข้มงวด โดยทหารรักษาพระองค์บางคนได้รับอนุญาตให้แต่งงานและมีครอบครัวได้ด้วย

ความพิเศษเหล่านี้ของนครรัฐวาติกันทำให้หลายคนสงสัยว่า ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกแห่งนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

ชื่อ “วาติกัน” นั้น มีหลักฐานปรากฏตั้งแต่ยุคสาธารณรัฐโรมัน (509-27 ปีก่อนคริสตกาล) โดยเป็นชื่อเรียกพื้นที่หนองน้ำบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไทเบอร์ที่เรียกว่า “Ager Vaticanus” และใกล้ ๆ กันมีพื้นที่ในกรุงโรมที่ถูกเรียกว่า “เนินวาติกัน” (Vatican Hill) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในปัจจุบัน

ภายหลังการประสูติของพระเยซู ศาสนาคริสต์ได้เผยแผ่อิทธิพลในยุโรปอย่างต่อเนื่อง จนในปี 313 จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire) ได้ให้สถานะทางกฎหมายแก่ศาสนจักรโรมันคาทอลิก

จุดเปลี่ยนสำคัญคือ การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (Western Roman Empire) ในปี 476 ทำให้ประชาชนจำนวนมากหันมาพึ่งใบบุญของศาสนจักร จน “อำนาจทางโลก” ของพระสันตะปาปาในพื้นที่อิตาลีตอนกลางเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ผู้นำทางจิตวิญญาณหรือผู้นำศาสนา

กระทั่งปี 756 มีการสถาปนา “รัฐสันตะปาปา” (Papal State) หรือดินแดนต่าง ๆ ในอิตาลีที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยตรงของพระสันตะปาปา มีการสร้างกองทัพเป็นของตัวเอง จนกลายเป็นหนึ่งในขั้วอำนาจสำคัญ

ศาสนจักรเรืองอำนาจเป็นเวลามากกว่า 1,000 ปี จนอาณาเขตของรัฐสันตะปาปาขยายตัวครอบคลุมพื้นที่ 1 ใน 3 ของอิตาลี รวมถึงกรุงโรมด้วย  และพระสันตะปาปากลายเป็นผู้ปกครองทางโลกที่สำคัญในอิตาลี

จนในปี 1861 เกิดการสถาปนาราชอาณาจักรอิตาลี (Kingdom of Italy) จากการรวมตัวกันของรัฐอิตาลีหลาย ๆ รัฐภายใต้การนำของราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย

ราชอาณาจักรอิตาลีเข้ายึดครองดินแดนของรัฐสันตะปาปาส่วนใหญ่ จนเหลือเพียงแคว้นลาซิโอ (Lazio) ซึ่งมีกรุงโรมรวมอยู่ด้วย ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของพระสันตะปาปา

ท้ายที่สุดในปี 1870 กองกำลังของราชอาณาจักรอิตาลีเข้ายึดกรุงโรมเอาไว้ได้ ศาสนจักรเหลือเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ในวาติกัน ทำให้อิตาลีเสนอที่จะจัดตั้งนครรัฐสำหรับคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิกให้ในพื้นที่ดังกล่าว แต่พระสันตะปาปาปิอุสที่ 9 และผู้สืบทอดตำแหน่งหลังจากนั้น ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าว และเรียกตนเองว่าเป็น “เชลย”

หลังจากนั้นสถานการณ์ระหว่างอิตาลีและศาสนจักรอยู่ในภาวะสงครามเย็น เป็นข้อพิพาทระยะยาวที่เรียกกันว่า “Roman Question”

สถานการณ์ความขัดแย้งคลี่คลายในวันที่ 11 ก.พ. 1929 เมื่อศาสนจักรและราชอาณาจักรอิตาลีตกลงลงนามใน “สนธิสัญญาลาเตรัน” (Lateran Treaty) โดยนายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาล เบนิโต มุสโสลินี เป็นตัวแทนลงนามฝั่งอิตาลี ในนามของพระเจ้าวิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 และพระคาร์ดินัล เปียโตร กัสปาร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศาสนจักร เป็นตัวแทนลงนามในนามของสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 11

สนธิสัญญาดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 1929 กำหนดให้อิตาลีต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่รัฐพระสันตปาปาที่ถูกยึดครองด้วย ได้รับรองสถานะเอกราชสมบูรณ์ของสันตะสำนักในนครรัฐวาติกัน ทำให้มีสถานะเป็นประเทศที่มีเอกราชอย่างเป็นทางการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

เรียบเรียงจาก BBC / Vatican Trips

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ