เหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ในยุโรปบริเวณคาบสมุทรไอบีเรีย ส่งผลให้สเปนและโปรตุเกสไฟดับทั้งประเทศ รวมถึงพื้นที่บางส่วนทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสก็ได้รับผลกระทบ รวมมีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 58 ล้านคน
นี่เป็นเหตุวิกฤตด้านพลังงานครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในภูมิภาคยุโรป และกลายเป็นพาดหัวข่าวไปทั่วโลก จนติดอันดับ Top 10 วิกฤตไฟดับที่ใหญ่ที่สุดในโลก
พีพีทีวี ได้รวบรวม 10 เหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยพิจารณาจากจำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มีดังนี้
อันดับ 1 ไฟดับอินเดีย 2555 กระทบ 670 ล้านคน
เป็นเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เกิดขึ้นที่ภาคเหนือของอินเดียเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค. 2555
โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เกิดไฟดับรอบแรก ประชาชนกว่า 300 ล้านคนใน 9 รัฐใหญ่ รวมทั้งเมืองหลวงอย่างกรุงนิวเดลีได้รับผลกระทบ
จากนั้นในวันที่ 31 ก.ค. เกิดไฟดับครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตก เหนือ และตะวันออกของอินเดีย ครอบคลุม 20 รัฐ ส่งผลกระทบต่อประชากรรวมประมาณ 670 ล้านคน หรือเกินครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ และคิดเป็นเกือบ 10% ของประชากรโลกในขณะนั้น
ไฟดับครั้งดังกล่าวเกิดจากเครือข่ายไฟฟ้า 2 ใน 4 เครือข่ายของประเทศในภาคเหนือและภาคตะวันออกรับภาระเกิน เนื่องจากความต้องการใช้ฟฟ้าสูงในช่วงฤดูร้อน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้การคมนาคมหยุดชะงัก นอกจากรถไฟหลายขบวนบนรางรถไฟจะต้องหยุดวิ่งแล้ว รถไฟฟ้าใต้ดินหลายขบวนต้องอพยพประชาชน และไฟจราจรหลายพันดวงดับ ทำให้การจราจรติดขัดเป็นเวลานาน
ไฟดับยังทำให้โรงพยาบาล ธุรกิจ ร้านค้า และบ้านเรือนส่วนบุคคลไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลาหลายชั่วโมง
อันดับ 2 ไฟดับปากีสถาน 2566 กระทบ 230 ล้านคน
เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในวันที่ 23 ม.ค. 2566 ไฟฟ้าดับครั้งนี้มีผลกระทบกับประชากร 230 ล้านคน หรือคิดเป็น 99% ของประชากรทั้งประเทศปากีสถาน
ในภูมิภาคส่วนใหญ่ ไฟดับนานประมาณ 12–13 ชั่วโมง ในขณะที่บางพื้นที่ เช่น ชุมชนชนบท ไฟดับนานกว่านั้น โดยไฟดับนาน 24–72 ชั่วโมง
ไฟฟ้ากลับมาจ่ายให้กับเมืองหลวง อิสลามาบัด และเมืองใกล้เคียง ราวัลปินดี ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ส่วนเมืองหลักอื่น เช่น ลาฮอร์และการาจี ได้รับไฟฟ้าหลังจากผ่านไปประมาณ 16 ชั่วโมง
ในส่วนของสาเหตุ กระทรวงพลังงานระบุว่า ไฟดับเริ่มต้นขึ้นในจังหวัดสินธ์ ทางตอนใต้ หลังจากแรงดันไฟฟ้าผันผวนผิดปกติ ความผันผวนดังกล่าวส่งผลให้เกิดความล้มเหลวเป็นทอด ๆ ในโรงไฟฟ้าต่างทั่วประเทศ จนกระทั่งปากีสถานตกอยู่ในความมืด
อันดับ 3 ไฟดับอินเดีย 2544 กระทบ 230 ล้านคน
ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอินเดีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก เกิดขึ้นในวันที่ 2 ม.ค. 2544 โดยส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 230 ล้านคน บริการและธุรกิจต่าง ๆ ทั่วภาคเหนือต้องหยุดให้บริการ และรถไฟกว่า 80 ขบวนต้องติดอยู่กับที่
ไฟฟ้าดับครั้งนี้เกิดจากสถานีไฟฟ้าย่อยแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศเกิดขัดข้อง ประกอบกับอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ไม่เพียงพอและคุณภาพไม่ดี ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นทอด ๆ ทั่วภูมิภาคทางตอนเหนือของอินเดีย
อันดับ 4 ไฟดับบังกลาเทศ 2557 กระทบ 150 ล้านคน
ไฟฟ้าดับทั่วประเทศบังกลาเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2557 ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 150 ล้านคนเป็นเวลาราว 10 ชั่วโมง หรือเกือบครึ่งวัน โดยสาเหตุมาจากสายส่งไฟฟ้าจากอินเดียไปยังบังกลาเทศ เกิดการขัดข้อง
ไฟฟ้าดับทั้งในเมืองหลวงธากา เมืองใหญ่และเมืองเล็กอื่น ๆ ทั่วประเทศ ร้านค้าต่าง ๆ ต้องปิด และเนื่องจากไม่มีไฟฟ้า โรงพยาบาลจึงต้องใช้เครื่องปั่นไฟ แต่อุปกรณ์บางอย่างก็ไม่สามารถใช้งานได้
อันดับ 5 ไฟดับบังกลาเทศ 2565 กระทบ 140 ล้านคน
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2565 และส่งผลกระทบต่อประชากรของประเทศถึง 80% สาเหตุมีการระบุว่า เกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้า โดยกินเวลานานถึง 7 ชั่วโมงจึงแก้ไขกลับมาได้
อันดับ 6 ไฟดับชวา-บาหลี 2548 กระทบ 100-120 ล้านคน
ในวันที่ 18 ส.ค. 2548 เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทั่วเกาะบาหลีและเกาะชวาของอินโดนีเซีย ส่งผลกระทบต่อชาวอินโดนีเซีย 100-120 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ โดยกินเวลานานเกือบ 24 ชั่วโมง
กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย รวมถึงบางส่วนของชวาตะวันออก ชวาตะวันตก และชวากลาง ไม่มีไฟฟ้าใช้เลย ส่งผลให้บริการขนส่งทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึงเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ ต้องถูกยกเลิก และธุรกิจต่าง ๆ ต้องปิดให้บริการ
สาเหตุของไฟฟ้าดับนั้นเชื่อมโยงกับความล้มเหลวของโครงข่ายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อชวาและบาหลี ซึ่งมีกำลังการผลิต 19,615 เมกะวัตต์ เนื่องจากสายส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ระหว่างซากูลิงและชิเลกอนในชวาตะวันตกเกิดขัดข้อง
อันดับ 7 ไฟดับบราซิล 2542 กระทบ 97 ล้านคน
เกิดเหตุฟ้าผ่าสถานีไฟฟ้าย่อยในเซาเปาโล ทางตอนใต้ของบราซิล เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2542 ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของพื้นที่ภาคใต้ของบราซิลล้มเหลวเป็นทอด ๆ
เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้โรงไฟฟ้าและเขื่อนอิไตปู หนึ่งในแหล่งพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำที่สำคัญของโลก และเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้น ซึ่งส่งไฟฟ้าไปยังเซาเปาโลและริโอเดอจาเนโร ต้องหยุดทำงาน ทำให้ประชาชน 97 ล้านคนตกอยู่ในความโกลาหลและความมืด นับเป็นเหตุไฟดับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบราซิล
ไฟฟ้าดับครั้งนี้ทำให้ธุรกิจและบริการต่าง ๆ ในเมืองเซาเปาโลและริโอเดจาเนโร ซึ่งเป็น 2 เมืองที่ใหญ่ที่สุดของบราซิลต้องหยุดนานถึง 6 ชั่วโมง
อันดับ 8 ไฟดับบราซิล-ปารากวัย 2552 กระทบ 87 ล้านคน
ประชาชนกว่า 87 ล้านคนในรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของบราซิล และทั่วทั้งประเทศปารากวัย ไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันที่ 10 พ.ย. 2552 เมื่อสายส่งไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าที่เมืองอิไตปูสะดุดลงจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง
ผู้โดยสารหลายพันคนติดอยู่ในรถไฟใต้ดินเนื่องจากต้องหยุดให้บริการ และรถโดยสารไม่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ มีรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนมากเนื่องจากไฟถนนและไฟจราจรดับ โดยไฟดับครั้งนี้กินเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในบราซิล ส่วนในประเทศปารากวัย ไฟดับเพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
อันดับ 9 ไฟดับสเปน-โปรตุเกส 2568 กระทบ 58 ล้านคน
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2568 เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทั่วคาบสมุทรไอบีเรียในสเปนและโปรตุเกส ทั้งรถไฟและเที่ยวบินต้องหยุดให้บริการ หลายพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณเครือข่ายมือถือได้ ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งต้องยกเลิกการผ่าตัด สัญญาณไฟจราจรในหลาย ๆ สถานที่หยุดทำงาน และต้องอพยพประชาชนออกจากรถไฟใต้ดิน
นอกจากนี้ ไฟฟ้าดับเล็กน้อยเป็นเวลาหลายวินาทีหรือหลายนาทีในภูมิภาคที่อยู่ติดกันของอันดอร์ราและบางส่วนของฝรั่งเศสตะวันตกเฉียงใต้
ผู้ประกอบการไฟฟ้าของสเปน Red Eléctrica de España (REE) กล่าวว่า ไฟฟ้าดับครั้งนี้ “ผิดปกติอย่างยิ่งขณะที่ผู้ประกอบการเครือข่ายไฟฟ้าของโปรตุเกส Redes Energéticas Nacionais (REN) ระบุว่า อาจต้องใช้เวลานานถึง 1 สัปดาห์กว่าที่การดำเนินงานจะกลับมาเป็นปกติทั้งหมด
ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุของไฟดับครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร
อันดับ 10 ไฟดับอิตาลี 2546 กระทบ 56 ล้านคน
28 ก.ย. 2546 ประเทศอิตาลีทั้งประเทศยกเว้นแคว้นซาร์ดิเนีย และบางส่วนของสวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลานานถึง 12 ชั่วโมง ทำให้ประชาชนกว่า 56 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้
สาเหตุเกิดจากพายุพัดรุนแรง ทำให้ต้นไม้ล้มทับสายส่งไฟฟ้าจากสวิตเซอร์แลนด์เสียหาย ทำให้ระบบไฟฟ้าภายในประเทศรับภาระเกินจากความต้องการพลังงานที่สูง จนสายส่งไฟฟ้าจากฝรั่งเศสสะดุดตาม นับเป็นไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อิตาลี
ประเทศไทยเองเคยไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เหมือนกัน
ประเทศไทยของเราเอง แม้ไม่ติดอันดับข้างต้น แต่ที่ผ่านมาเคยเผชิญสถานการณ์ไฟฟ้าดับรุนแรงเป็นวงกว้างเช่นกัน
ในเดือน มี.ค. ปี 2521 เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าพระนครใต้ในจังหวัดสมุทรปราการขัดข้อง ทำให้ระบบไฟฟ้าของทั้งประเทศต้องหยุดทำงานตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ประชากรกว่า 40 ล้านคนได้รับผลกระทบนานร่วม 9 ชั่วโมง
และในเดือน พ.ค. 2556 ประเทศไทยประสบปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่อีกครั้ง ทำให้ 14 จังหวัดภาคใต้ไม่มีไฟฟ้าใช้
เรียบเรียงจาก Trinity Power / Penna Electric / EE Power